Surprising Teams at EURO 2024

ทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าประหลาดใจใน EURO 2024

EURO 2024 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เต็มไปด้วยความพลิกผันและเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง แม้ว่าทีมยักษ์ใหญ่อย่าง สเปน, อิตาลี, และอังกฤษจะครองหัวข้อข่าว แต่ก็มีทีมอื่น ๆ ที่ทำให้แฟนบอลและนักวิจารณ์ต้องตะลึงกับผลงานที่น่าประทับใจ


5 ทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าประหลาดใจใน EURO 2024

ทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าประหลาดใจใน EURO 2024

ทีมเหล่านี้ได้ทำลายความคาดหวังก่อนการแข่งขัน และสร้างผลลัพธ์ที่น่าตกใจ พิสูจน์ให้เห็นว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ นี่คือ 5 ทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าประหลาดใจที่สุดใน EURO 2024

1. ฮังการี: ทีมที่รอดพ้นจาก “กรุ๊ป ออฟ เดธ”

ฮังการีถูกจับสลากอยู่ในกลุ่มที่หลายคนเรียกว่า “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ร่วมกับทีมยักษ์ใหญ่อย่างฝรั่งเศส, เยอรมนี, และโปรตุเกส ไม่มีใครคาดคิดว่าฮังการีจะสามารถสร้างผลงานที่น่าทึ่งได้ โดยหลายคนคาดว่าพวกเขาจะจบอันดับสุดท้ายในกลุ่ม

ฮังการีสามารถเสมอฝรั่งเศส แชมป์โลกด้วยสกอร์ 1-1 ในเกมเปิดสนาม การป้องกันที่เหนียวแน่นของฮังการี นำโดย วิลลี่ ออร์บาน ทำให้ฝรั่งเศสไม่สามารถทำประตูได้ง่าย ๆ ขณะที่ อัตติลา ฟิโอล่า ทำประตูให้ฮังการีนำไปก่อนในครึ่งแรก ทำให้แฟนบอลทั่วโลกต้องตกตะลึง แต่ความประหลาดใจยังไม่จบเท่านั้น ในเกมถัดมา ฮังการีเสมอเยอรมนี 2-2 ฮังการีนำไปก่อนถึงสองครั้งจากการทำประตูของ อดัม ซาไล และอันดราส เชเฟอร์ ก่อนที่เยอรมนีจะตามตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม

แม้ฮังการีจะจบอันดับที่สี่ในกลุ่มและตกรอบไป แต่พวกเขาได้รับคำชมมากมายในเรื่องความทุ่มเทและความสามารถในการแข่งขันกับทีมใหญ่ของยุโรป

2. เดนมาร์ก: การเดินทางสู่รอบรองชนะเลิศ

การเดินทางของเดนมาร์กใน EURO 2024 ไม่เพียงแต่น่าทึ่งในเรื่องของฟอร์มการเล่นในสนาม แต่ยังเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยอารมณ์ หลังจากที่พวกเขาเสียผู้เล่นสำคัญอย่าง คริสเตียน เอริคเซ่น ที่ล้มลงจากอาการหัวใจหยุดเต้นในเกมเปิดสนามกับฟินแลนด์ ไม่มีใครคาดคิดว่าเดนมาร์กจะสามารถก้าวขึ้นมาได้

แม้ว่าจะพ่ายแพ้ในสองเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม แต่เดนมาร์กสามารถสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการเอาชนะรัสเซีย 4-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ได้ จากนั้นเดนมาร์กก็ยังคงสร้างผลงานที่น่าทึ่งต่อไปด้วยการเอาชนะเวลส์ 4-0 ในรอบ 16 ทีม และเอาชนะเช็ก 2-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือการที่เดนมาร์กสามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเดนมาร์กหมดหวังหลังจากเหตุการณ์ของเอริคเซ่น แต่ทีมได้รวมพลังกันเล่นด้วยความมุ่งมั่นและความสามัคคีที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกประทับใจ เกมรอบรองชนะเลิศกับอังกฤษเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด เดนมาร์กนำไปก่อนจากลูกฟรีคิกของ มิเกล ดัมส์การ์ด ก่อนที่จะพ่ายแพ้ไป 2-1 หลังต่อเวลาพิเศษ การเดินทางของเดนมาร์กใน EURO 2024 ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่น่าประทับใจและไม่คาดคิดที่สุด

3. มาซิโดเนียเหนือ: เปิดตัวประวัติศาสตร์

มาซิโดเนียเหนือได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปเป็นครั้งแรก แม้ว่าความคาดหวังจะไม่สูงนัก แต่ผลงานของพวกเขาในรอบแบ่งกลุ่มได้รับการยอมรับและชื่นชมจากแฟนบอลและนักวิจารณ์

เกมเปิดตัวของมาซิโดเนียเหนือต่อออสเตรียจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 3-1 แต่การแสดงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในเกมกับยูเครนนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนประหลาดใจ โกรัน ปานเดฟ กองหน้าตำนานของมาซิโดเนียเหนือทำประตูแรกในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ให้กับทีม นำไปสู่การฉลองที่ดุเดือด แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ไป 2-1 แต่ผลงานของพวกเขาก็ยังถือว่าน่าชื่นชม

ช่วงเวลาที่น่าประหลาดใจที่สุดคือเกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มกับเนเธอร์แลนด์ มาซิโดเนียเหนือสามารถยื้อเสมอเนเธอร์แลนด์ 0-0 ได้ในช่วงครึ่งแรก แนวรับของพวกเขาสามารถหยุดการโจมตีของเนเธอร์แลนด์ได้หลายครั้ง แม้ว่าจะพ่ายแพ้ 3-0 ในท้ายที่สุด แต่ผลงานของมาซิโดเนียเหนือก็ถือว่าน่าประทับใจเกินความคาดหมาย

4. สวิตเซอร์แลนด์: นักฆ่ายักษ์

สวิตเซอร์แลนด์เข้าร่วม EURO 2024 ด้วยภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งแต่ไม่หวือหวา โดยมักถูกมองว่าเป็นทีมที่สามารถเข้ารอบน็อกเอาท์ได้ แต่ไม่น่าจะไปไกลกว่านั้น

ในเกมรอบ 16 ทีมที่พบกับฝรั่งเศส หลายคนคาดว่าฝรั่งเศสจะชนะได้อย่างง่ายดาย แต่สวิตเซอร์แลนด์มีแผนอื่น หลังจากนำไปก่อน สวิตเซอร์แลนด์กลับถูกฝรั่งเศสแซงขึ้นนำ 3-1 เหลือเพียง 10 นาทีสุดท้าย แต่พวกเขาก็ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดด้วยการยิงสองประตูติดจาก ฮาริส เซเฟโรวิช และ มาริโอ กาฟราโนวิช ทำให้เกมเสมอ 3-3 และต้องต่อเวลาพิเศษ เกมยืดเยื้อจนถึงการดวลจุดโทษ และสวิตเซอร์แลนด์ก็เอาชนะฝรั่งเศสไปได้ด้วยการที่ ยานน์ ซอมเมอร์ เซฟลูกยิงของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ได้สำเร็จ

ชัยชนะของสวิตเซอร์แลนด์เหนือฝรั่งเศสถือเป็นหนึ่งในผลการแข่งขันที่ช็อกที่สุดในประวัติศาสตร์ EURO และเกมรอบก่อนรองชนะเลิศกับสเปนก็เป็นอีกเกมที่น่าตื่นเต้น แม้ว่าสวิตเซอร์แลนด์จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน แต่พวกเขาก็ยื้อเสมอสเปน 1-1 จนถึงการดวลจุดโทษ

5. สกอตแลนด์: การกลับสู่เวทีใหญ่

สกอตแลนด์ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ครั้งแรกในรอบกว่ายี่สิบปี และการกลับสู่การแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของชาติ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกคาดหวังว่าจะไปได้ไกล แต่ผลงานของสกอตแลนด์ โดยเฉพาะเกมกับอังกฤษนั้นน่าประหลาดใจ

เกมรอบแบ่งกลุ่มของสกอตแลนด์กับอังกฤษที่สนามเวมบลีย์ถูกมองว่าเป็นการเผชิญหน้าระหว่าง เดวิด กับ โกไลอัท โดยไม่มีใครคาดคิดว่าสกอตแลนด์จะทำให้อังกฤษต้องลำบาก แต่สกอตแลนด์แสดงความมุ่งมั่นและการต่อสู้อย่างเต็มที่ โดยสามารถยื้อเสมออังกฤษ 0-0 แนวรับของสกอตแลนด์ที่นำโดย เคียแรน เทียร์นี่ย์ และ แกรนท์ แฮนลี่ย์ สามารถหยุดเกมรุกของอังกฤษได้ ขณะที่ จอห์น แม็คกินน์ และ บิลลี่ กิลมอร์ คุมเกมในแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม

แม้ว่าสกอตแลนด์จะไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ได้ แต่การต่อสู้อย่างเต็มที่ในเกมกับอังกฤษถือว่าเป็นผลงานที่น่าประทับใจและเหนือความคาดหมาย

Similar Posts