2020 UEFA Champions League final: Route to the final

2020 UEFA Champions League final: Route to the final

เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2020

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2020 ถือเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ และการเผชิญหน้าระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ บาเยิร์น มิวนิก ที่สร้างความทรงจำและสถิติใหม่ให้กับวงการฟุตบอลระดับโลก


ปารีส แซงต์-แชร์กแมง: ความทะเยอทะยานที่ไม่หยุดยั้ง

การเปิดฉากรอบแบ่งกลุ่ม

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หรือที่แฟนบอลรู้จักในนาม PSG เริ่มต้นฤดูกาล 2020 ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มจากการคว้าแชมป์ลีกเอิง 2018–2019 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 6 ใน 7 ฤดูกาลหลังสุด สโมสรถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับ เรอัล มาดริด ทีมดังจากสเปนที่มีประวัติการคว้าแชมป์ยุโรปมากที่สุด, กาลาตาซาราย ทีมแกร่งจากตุรกี และ คลับ บรูช ตัวแทนจากเบลเยียม

ปารีสเริ่มต้นรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างร้อนแรงด้วยการถล่มเรอัล มาดริด 3-0 ในเกมเปิดสนามที่ปาร์ก เดส์ แปรงซ์ โดย อังเคล ดิ มาเรีย อดีตนักเตะเรอัล มาดริด ทำสองประตูในครึ่งแรก และ โธมัส มูนิเยร์ ยิงปิดท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ครองใจแฟนบอลได้ตั้งแต่เกมแรก

ในเกมถัดมา PSG ยังคงรักษาฟอร์มเก่งด้วยการบุกชนะกาลาตาซาราย 1-0 ที่สนามเติร์ก เทเลคอม สเตเดียม จากการทำประตูของ เมาโร อิคาร์ดี ในครึ่งหลัง จากนั้นพวกเขายังสร้างผลงานโดดเด่นด้วยชัยชนะเหนือคลับ บรูช 5-0 ในเกมเยือน โดยมี คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ทำแฮตทริกและอิคาร์ดีที่ยิงสองประตู

การต่อสู้ในรอบน็อกเอาต์

ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ปารีสต้องเผชิญหน้ากับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมแกร่งจากเยอรมนี ในเกมแรกพวกเขาพ่ายไป 1-2 แต่ในเกมที่สองที่ปาร์ก เดส์ แปรงซ์ PSG พลิกสถานการณ์ด้วยการชนะ 2-0 จากประตูของ เนย์มาร์ และ ฮวน เบร์นาต รวมผลสองนัดชนะ 3-2 และผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ

ในรอบก่อนรองชนะเลิศ PSG พบกับ อตาลันตา ทีมม้ามืดจากอิตาลี เกมนี้ต้องเล่นแบบนัดเดียวที่เอสตาดิโอ ดา ลุซ ณ กรุงลิสบอน โดยในนาทีสุดท้ายของเกม PSG ที่ตามหลังมาตลอด พลิกกลับมาชนะ 2-1 ด้วยประตูจาก มาร์ควินญอส และ เอริก มักซิม ชูโป-โมติง

มุ่งหน้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

ในรอบรองชนะเลิศ PSG เจอกับแอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งเป็นอีกทีมที่มาแรงในฤดูกาลนี้ PSG แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่และเอาชนะไป 3-0 ด้วยประตูจากมาร์ควินญอส, อังเคล ดิ มาเรีย และ ฮวน เบร์นาต นี่เป็นการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร


บาเยิร์น มิวนิก: ความยิ่งใหญ่ของแชมป์บุนเดสลีกา

การครองตำแหน่งในรอบแบ่งกลุ่ม

บาเยิร์น มิวนิก เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2018–2019 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 7 ติดต่อกัน ทีมถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม B ร่วมกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, โอลิมเปียกอส และ เรดสตาร์ เบลเกรด บาเยิร์นเริ่มต้นการแข่งขันด้วยการชนะเรดสตาร์ เบลเกรด 3-0 ตามด้วยการบุกไปถล่มท็อตแนม 7-2 ในนัดที่สอง

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในรอบน็อกเอาต์

ในรอบ 16 ทีม บาเยิร์นต้องเจอกับเชลซี ทีมแกร่งจากอังกฤษ บาเยิร์นแสดงศักยภาพอันยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะเชลซีไป 7-1 ในผลรวมสองนัด ซึ่งรวมถึงชัยชนะ 4-1 ในเกมเลกสองที่อัลลิอันซ์ อารีนา

ในรอบก่อนรองชนะเลิศ บาเยิร์นสร้างความตกตะลึงให้กับแฟนบอลทั่วโลกด้วยการเอาชนะบาร์เซโลนา 8-2 ซึ่งเป็นชัยชนะที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันแชมเปียนส์ลีกของสโมสร

สู่รอบชิงชนะเลิศครั้งประวัติศาสตร์

ในรอบรองชนะเลิศ บาเยิร์นเอาชนะลียงไป 3-0 ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไร้ที่ติ โดย แซร์จ นาบรี ทำสองประตูและเลวานดอฟสกีทำอีกหนึ่งประตู บาเยิร์นผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013


การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ บาเยิร์น มิวนิก กลายเป็นศึกที่ทั้งโลกจับตามอง สองทีมยักษ์ใหญ่ต่างต่อสู้เพื่อความเป็นหนึ่งในยุโรป คุณพร้อมที่จะย้อนรอยเหตุการณ์สุดยิ่งใหญ่นี้แล้วหรือยัง?

Similar Posts