การแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2022–23
บทนำสู่ฤดูกาลที่น่าจดจำ
ฤดูกาล 2022–23 ของยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขันฟุตบอล แต่ยังเป็นงานเฉลิมฉลองของความมุ่งมั่นและความสามารถของสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในยุโรป โดยถือเป็นฤดูกาลที่ 68 ของการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้ที่จัดขึ้นโดยยูฟ่า และเป็นครั้งที่ 31 นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจาก European Champion Clubs’ Cup มาเป็นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความหมายสำหรับแฟนบอลทั่วโลก
นัดชิงชนะเลิศที่น่าจดจำ
การตัดสินแชมป์ในนัดชิงชนะเลิศจัดขึ้นที่สนามกีฬาโอลิมปิกอาตาเติร์กในอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2023 สนามแห่งนี้เดิมถูกกำหนดให้เป็นเจ้าภาพนัดชิงชนะเลิศในปี 2020 แต่ต้องถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จนถึงปีนี้ และในที่สุดก็ได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันที่รอคอย
ในนัดชิงชนะเลิศ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นตัวเต็งจากอังกฤษ ปะทะกับอินเตอร์ มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่จากอิตาลี การแข่งขันที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นนี้ทำให้แฟนบอลต่างตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1–0 โดยมีโรดรีเป็นผู้ทำประตูในช่วงครึ่งหลัง ทำให้เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันจากยูฟ่า การคว้าแชมป์ในครั้งนี้ถือเป็นถ้วยยุโรปใบแรกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเป็นถ้วยยุโรปใบแรกนับตั้งแต่ปี 1970
รายละเอียดการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2022–23
ข้อมูลทัวร์นาเมนต์ | รายละเอียด |
---|---|
วันที่ | รอบคัดเลือก: 21 มิถุนายน – 24 สิงหาคม 2022 การแข่งขันหลัก: 6 กันยายน 2022 – 10 มิถุนายน 2023 |
จำนวนทีม | การแข่งขันหลัก: 32 ทีม รวม: 78 ทีม (จาก 53 สมาคม) |
ตำแหน่งสุดท้าย | แชมป์: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) (แชมป์สมัยแรก) รองแชมป์: อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) |
สถิติการแข่งขัน | จำนวนการแข่งขัน: 125 นัด ประตูที่ทำได้: 372 ประตู (เฉลี่ย 2.98 ประตูต่อนัด) ผู้ชมรวม: 6,194,200 คน (เฉลี่ย 49,554 คนต่อนัด) |
ผู้ทำประตูสูงสุด | เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 12 ประตู |
ผู้เล่นยอดเยี่ยม | โรดรี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) |
ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยม | ควิช่า ควารัตสเคเลีย (นาโปลี) |
เส้นทางสู่การคว้าแชมป์
การที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์นี้ได้ยังมาพร้อมกับความสำเร็จในระดับท้องถิ่น โดยพวกเขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพมาก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ทวีปได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ความสำเร็จในครั้งนี้ยังทำให้พวกเขาได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันกับเซบีญ่า ทีมแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก 2022–23 ในยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2023 รวมถึงการได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2023 ที่จัดขึ้นในซาอุดีอาระเบีย และ 2025 ที่สหรัฐอเมริกา
ความพ่ายแพ้ของแชมป์เก่า
ทางด้านเรอัล มาดริด แชมป์เก่าในฤดูกาลก่อนที่ได้แชมป์สมัยที่ 14 ต้องประสบความผิดหวังเมื่อพวกเขาถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์ในที่สุดเอาชนะในรอบรองชนะเลิศ แม้ว่าพวกเขาจะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและความสำเร็จที่น่าทึ่งในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก แต่ความพ่ายแพ้ในปีนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่รับประกันได้ในโลกฟุตบอล
บทส่งท้าย
ฤดูกาล 2022–23 ของยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก จะถูกจดจำในฐานะฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น การแข่งขันที่สูสี และความสำเร็จที่น่าประทับใจของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการฟุตบอลได้ ในขณะที่เรอัล มาดริด ต้องเริ่มต้นใหม่ในฤดูกาลถัดไป เพื่อกลับมาสร้างชื่อเสียงอีกครั้งในรายการอันทรงเกียรตินี้