ได้รับการยอมรับมากที่สุดว่าเป็นโค้ชที่ดีที่สุดของยูโร 2020

ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ 2020 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ยูโร 2020 ไม่เพียงแต่เป็นเวทีสำหรับนักเตะที่ดีที่สุดในยุโรปเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่โค้ชที่มีความเชี่ยวชาญด้านแท็กติกหลายคนได้แสดงฝีมือของพวกเขาอย่างยอดเยี่ยม ในยูโร 2020 โค้ชหลายคนได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการคิดวางแผนเพื่อเอาชนะคู่แข่ง การปรับตัวรับมือกับความท้าทาย และการนำพาทีมของตนผ่านการแข่งขันที่เต็มไปด้วยดราม่าและความตื่นเต้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจ 10 โค้ชที่ดีที่สุดในยูโร 2020 โดยเน้นถึงผลกระทบที่พวกเขามีต่อทีมและทัวร์นาเมนต์โดยรวม


โค้ชที่ดีที่สุดของยูโร 2020 ที่เอาชนะคู่แข่งด้วยสมองเชิงกลยุทธ์

Best Couch of EURO 2024 - Best Couch of EURO 2020

ยูโร 2020 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่แท็กติกมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนตัวที่ถูกต้อง การจัดทีมเพื่อใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของคู่แข่ง หรือการรักษาความนิ่งในสถานการณ์กดดัน โค้ชที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้คือผู้ที่สามารถปรับตัวและคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ๆ ได้ โค้ชเหล่านี้ไม่เพียงแต่พาทีมของตนไปสู่การแสดงที่น่าประทับใจ แต่ยังฝากผลงานที่น่าจดจำไว้ในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย เรามาทำความรู้จักกับ 10 โค้ชที่ดีที่สุดในยูโร 2020 ที่ใช้กลยุทธ์เอาชนะคู่แข่งและทำให้ยูโร 2020 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าจดจำ

1. โรแบร์โต้ มันชินี่ (อิตาลี)

โรแบร์โต้ มันชินี่ (อิตาลี)

การนำทัพของโรแบร์โต้ มันชินี่ และความเชี่ยวชาญด้านแท็กติกของเขาเป็นปัจจัยสำคัญที่นำพาอิตาลีไปสู่ความสำเร็จในยูโร 2020 เมื่อเขาเข้ามาคุมทีมที่ไม่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2018 มันชินี่ได้เปลี่ยนแปลงอิตาลีให้กลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลแบบครองบอลอย่างสวยงาม ความสามารถในการหมุนเวียนนักเตะอย่างมีประสิทธิภาพและการเปลี่ยนตัวที่สำคัญ เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของอิตาลี ความยืดหยุ่นด้านแท็กติก ความสงบนิ่ง และความสามารถในการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะของเขาเป็นที่เห็นได้ชัดตลอดทัวร์นาเมนต์ โดยจบลงด้วยชัยชนะของอิตาลีในนัดชิงชนะเลิศกับอังกฤษ การจัดการทีมของมันชินี่ถือเป็นบทเรียนในเรื่องการโค้ชฟุตบอลยุคใหม่ ทำให้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นโค้ชที่ดีที่สุดในยูโร 2020

2. แกเร็ธ เซาธ์เกต (อังกฤษ)

แกเร็ธ เซาธ์เกตนำทีมชาติอังกฤษเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศครั้งแรกในรอบ 55 ปี โดยพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของยูโร 2020 ด้วยการผสมผสานระหว่างวินัยทางแท็กติกและการจัดการนักเตะ การตัดสินใจของเซาธ์เกตในการให้ความสำคัญกับโครงสร้างการป้องกันที่แข็งแกร่ง พร้อมกับการเปิดโอกาสให้นักเตะเกมรุกได้แสดงศักยภาพ เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของทีม การจัดการกับนักเตะดาวรุ่งอย่างบูกาโย ซาก้า และฟิล โฟเดน รวมถึงความสามารถในการจัดการกับความกดดันในรอบน็อคเอาต์ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้อังกฤษประสบความสำเร็จ แม้ว่าอังกฤษจะพลาดแชมป์ในนัดชิงชนะเลิศ แต่ความเป็นผู้นำที่สงบนิ่งและทักษะทางแท็กติกของเซาธ์เกต ทำให้เขาเป็นหนึ่งในโค้ชที่โดดเด่นที่สุดของทัวร์นาเมนต์นี้

3. หลุยส์ เอ็นริเก้ (สเปน)

ทีมชาติสเปนของหลุยส์ เอ็นริเก้อาจจะไม่ได้คว้าแชมป์ แต่แนวทางด้านแท็กติกและกลยุทธ์ใหม่ๆ ของเขาทำให้ทีมชาติสเปนเป็นหนึ่งในทีมที่น่าตื่นเต้นที่สุดในยูโร 2020 การเน้นครองบอลแบบสเปนร่วมกับการเล่นเพรสซิ่งสูง ทำให้ระลึกถึงยุคทองของสเปน การตัดสินใจที่กล้าหาญในการไม่เรียกตัวนักเตะที่มีประสบการณ์สูงบางคนและหันมาให้ความไว้วางใจนักเตะดาวรุ่งได้ผลดี ทำให้สเปนเข้าสู่รอบรองชนะเลิศและเล่นฟุตบอลที่น่าตื่นเต้นที่สุดในทัวร์นาเมนต์

4. แคสเปอร์ ฮูลมันด์ (เดนมาร์ก)

การนำทัพของแคสเปอร์ ฮูลมันด์ในทีมชาติเดนมาร์กนั้นเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ หลังจากเหตุการณ์ที่น่าตกใจเกี่ยวกับคริสเตียน อีริคเซ่นในนัดเปิดสนาม ฮูลมันด์ไม่เพียงแต่สามารถรักษาความมุ่งมั่นของทีม แต่ยังนำพาทีมไปสู่รอบรองชนะเลิศอย่างไม่น่าเชื่อ ความยืดหยุ่นทางแท็กติกของฮูลมันด์ โดยเฉพาะความสามารถในการปรับเปลี่ยนแผนการเล่นและรับมือกับคู่แข่งที่หลากหลาย เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เดนมาร์กประสบความสำเร็จ ความฉลาดทางอารมณ์ ความเห็นอกเห็นใจ และความสามารถในการรวมพลังทีมในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทำให้เขาเป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดของยูโร 2020

5. โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ (เบลเยียม)

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญด้านแท็กติกของเขาอีกครั้ง โดยพาเบลเยียมเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของยูโร 2020 ด้วยปรัชญาเกมบุก มาร์ติเนซวางแผนให้เบลเยียมเล่นฟุตบอลที่รวดเร็วและไหลลื่น โดยใช้ความสามารถของนักเตะอย่างเควิน เดอ บรอยน์ โรเมลู ลูกากู และเอแด็น อาซาร์ แม้ว่าเบลเยียมจะพ่ายแพ้อิตาลี แต่มาร์ติเนซสามารถผสมผสานความเร้าใจในการบุกเข้ากับความแข็งแกร่งในการป้องกัน ทำให้เบลเยียมเป็นหนึ่งในทีมที่น่าเกรงขามที่สุดในทัวร์นาเมนต์

6. ซลัตโก้ ดาลิช (โครเอเชีย)

ซลัตโก้ ดาลิช ที่นำโครเอเชียเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ได้แสดงความเชี่ยวชาญด้านแท็กติกของเขาอีกครั้งในยูโร 2020 แม้ว่าโครเอเชียจะตกรอบในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่พวกเขาก็ได้เล่นในหนึ่งในแมตช์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของทัวร์นาเมนต์ คือการพ่ายแพ้ต่อสเปน 5-3 ในช่วงต่อเวลา ความสามารถของดาลิชในการดึงศักยภาพสูงสุดจากนักเตะที่มีประสบการณ์ เช่น ลูก้า โมดริช และอีวาน เปริซิช ขณะเดียวกันก็ผสานนักเตะรุ่นใหม่เข้ากับทีม เป็นที่น่าชื่นชม

7. วลาดิเมียร์ เพทโควิช (สวิตเซอร์แลนด์)

วลาดิเมียร์ เพทโควิชพาสวิตเซอร์แลนด์เข้าสู่การทำผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา ด้วยการเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของยูโร 2020 และการเอาชนะทีมเต็งฝรั่งเศสในกระบวนการนี้ ความสามารถในการวางแท็กติกของเพทโควิช โดยเฉพาะความสามารถในการจัดการให้สวิตเซอร์แลนด์มีการป้องกันที่แข็งแกร่งในขณะที่ยังคงเป็นภัยคุกคามในการโต้กลับ เป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จ การตัดสินใจในช่วงการดวลจุดโทษกับฝรั่งเศส ซึ่งเขารักษาความสงบและมุ่งมั่นของนักเตะ เป็นการแสดงถึงความเป็นผู้นำของเขา การคิดเชิงกลยุทธ์และความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมของเพทโควิชทำให้เขาเป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์

8. อังเดร เชฟเชนโก้ (ยูเครน)

ทีมชาติยูเครนของอังเดร เชฟเชนโก้เป็นหนึ่งในทีมเซอร์ไพรส์ของยูโร 2020 โดยสามารถเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขา แท็กติกของเชฟเชนโก้ที่รวมเอาการป้องกันที่มีวินัยเข้ากับการเล่นเกมโต้กลับที่รวดเร็ว ทำให้ยูเครนสามารถเล่นได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ความสามารถของเขาในการดึงศักยภาพสูงสุดจากนักเตะอย่างอังเดร ยาร์โมเลนโก้ และโรมัน ยาเรมชุค เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยูเครนประสบความสำเร็จ

9. ยาโรสลาฟ ชิลฮาวี่ (สาธารณรัฐเช็ก)

ยาโรสลาฟ ชิลฮาวี่ นำสาธารณรัฐเช็กเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของยูโร 2020 ซึ่งพวกเขาเอาชนะเนเธอร์แลนด์ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ ชิลฮาวี่ใช้แท็กติกที่เน้นความแข็งแกร่งในการป้องกันและการโต้กลับที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสมกับจุดแข็งของสาธารณรัฐเช็ก ความสามารถในการกระตุ้นนักเตะและการดึงศักยภาพสูงสุดจากนักเตะสำคัญอย่างพาทริค ชิค และโทมัส ซูเช็ค เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จ

10. แฟรงค์ เดอ บัวร์ (เนเธอร์แลนด์)

แม้ว่าแฟรงค์ เดอ บัวร์และทีมชาติเนเธอร์แลนด์จะต้องออกจากยูโร 2020 ก่อนเวลาที่คาดการณ์ไว้ แต่ผลกระทบที่เขามีต่อทีมไม่สามารถมองข้ามได้ การจัดทีมของเดอ บัวร์ทำให้เนเธอร์แลนด์เล่นฟุตบอลที่สวยงามที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการเน้นการเล่นทางปีกและการเพรสซิ่งสูง ความสามารถในการผสานนักเตะรุ่นใหม่อย่างโดเนียล มาเลน และไรอัน กราเวนเบิร์ชเข้ากับทีม ในขณะที่ยังคงรักษาฟอร์มของนักเตะที่มีประสบการณ์อย่างเมมฟิส เดปาย เป็นการแสดงถึงทักษะการจัดการทีมของเขา แม้ว่าเนเธอร์แลนด์จะตกรอบในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่แท็กติกของเดอ บัวร์และฟุตบอลเชิงบวกที่ทีมของเขาเล่นเป็นสิ่งที่น่าจดจำในทัวร์นาเมนต์นี้

มันสมองที่อยู่เบื้องหลังยูโร 2020

ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ เป็นทัวร์นาเมนต์ที่แท็กติกและกลยุทธ์มีบทบาทสำคัญในการประสบความสำเร็จ โค้ชที่ดีที่สุดของยูโร 2020 ที่ได้ถูกกล่าวถึงในบทความนี้เป็นตัวอย่างของการวางแผนและการจัดการทีมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งแต่ละคนได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ของตนต่อเกมและสร้างผลกระทบอย่างมากในทัวร์นาเมนต์นี้

Similar Posts