การแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุดใน EURO 2016, ผู้เล่นแนวรับยอดเยี่ยมในศึก EURO 2016

5 แมตช์สุดตื่นเต้นแห่ง EURO 2016: ช่วงเวลาที่ไม่อาจลืมเลือน

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ของยูฟ่าเป็นทัวร์นาเมนท์ที่เต็มไปด้วยแมตช์ที่น่าจดจำ โดยแต่ละแมตช์จะนำเสนอเรื่องราวดราม่า ทักษะ และความตื่นเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง


การแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุดใน EURO 2016

การแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุดใน EURO 2016

การแข่งขัน UEFA European Football Championship 2016 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เต็มไปด้วยดราม่า ความตื่นเต้น และช่วงเวลาที่ไม่อาจลืมเลือน

ในขณะที่ทุกเกมมีความน่าสนใจในตัวของมันเอง มีบางเกมที่โดดเด่นขึ้นมาเป็นการแข่งขันที่ดีที่สุดของ EURO 2016 โดยเกมเหล่านี้สามารถตรึงใจแฟนบอลทั่วโลกได้ด้วยความเข้มข้น ทักษะ และการจบเกมที่ดราม่า

ในบทความนี้ เราจะย้อนกลับไปดู 5 การแข่งขันที่ดีที่สุดของ EURO 2016 ซึ่งแต่ละเกมได้ฝากรอยประทับไว้ในทัวร์นาเมนต์และย้ำเตือนว่าทำไมฟุตบอลถึงเป็นกีฬาที่งดงาม

1. เวลส์ vs เบลเยียม – รอบ 8 ทีมสุดท้าย (3-1)

อารอน แรมซีย์ (เวลส์ vs ลิส)

หนึ่งในแมตช์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ EURO 2016 คือการพบกันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายระหว่างเวลส์และเบลเยียม เวลส์ ซึ่งเป็นทีมหน้าใหม่ในศึกชิงแชมป์ยุโรป ถูกมองว่าเป็นรองเบลเยียมที่เต็มไปด้วยนักเตะชื่อดัง

การแข่งขันที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2016 ที่เมืองลีลล์ กลายเป็นหนึ่งในเกมที่น่าจดจำที่สุดของทัวร์นาเมนต์ เบลเยียมเริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง โดยนำไปก่อนในนาทีที่ 13 จากการยิงไกลสุดสวยของ Radja Nainggolan

อย่างไรก็ตาม เวลส์กลับมาตอบโต้ด้วยความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่น ในนาทีที่ 30 แอชลีย์ วิลเลียมส์ โหม่งตีเสมอจากลูกเตะมุม ทำให้เกมกลับมาสู่ความสมดุลอีกครั้ง

จุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 55 เมื่อ Hal Robson-Kanu โชว์ความสามารถในการหมุนตัวแบบ Cruyff ที่ทำให้กองหลังเบลเยียมสามคนเสียจังหวะ และยิงบอลผ่าน Thibaut Courtois อย่างเยือกเย็น

แซม โว๊คส์ ยิงประตูปิดท้ายด้วยลูกโหม่งในช่วงท้ายเกม ส่งเวลส์เข้าสู่รอบรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เกมนี้เป็นการผสมผสานระหว่างแทคติกที่ยอดเยี่ยม ทักษะเฉพาะตัว และความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ทำให้มันเป็นหนึ่งในแมตช์ที่ดีที่สุดของ EURO 2016

2. ฝรั่งเศส vs เยอรมนี – รอบรองชนะเลิศ (2-0)

การแข่งขันรอบรองชนะเลิศระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนีเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2016 ที่สนามสต๊าด เวโลโดรม เมืองมาร์แซย์ เป็นการปะทะกันของสองทีมยักษ์ใหญ่ และเป็นการรีแมตช์จากรอบ 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2014

เยอรมนีที่เป็นแชมป์โลกครองเกมและสร้างโอกาสได้หลายครั้ง แต่เป็นฝรั่งเศสที่ทำได้ดีกว่าในด้านการทำประตู

ประตูแรกเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก เมื่อ Bastian Schweinsteiger ถูกลงโทษจากการใช้มือปัดบอลในกรอบเขตโทษ Antoine Griezmann ยิงลูกจุดโทษเข้าประตูอย่างเยือกเย็น

เยอรมนีพยายามกดดันต่อในครึ่งหลัง แต่ Griezmann ทำประตูที่สองในนาทีที่ 72 จากการผิดพลาดของแนวรับเยอรมนี

การแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้ฝรั่งเศสเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ การต่อสู้ทางแทคติก ความสำคัญของการแข่งขัน และการจบสกอร์ของ Griezmann ทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในแมตช์ที่ดีที่สุดของ EURO 2016

3. โปรตุเกส vs ฮังการี – รอบแบ่งกลุ่ม (3-3)

การพบกันในรอบแบ่งกลุ่มระหว่างโปรตุเกสและฮังการีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2016 เป็นหนึ่งในแมตช์ที่ตื่นเต้นและคาดไม่ถึงที่สุดของ EURO 2016 การแข่งขันที่จัดขึ้นที่เมืองลียง มีทุกอย่างที่แฟนบอลต้องการ: ประตู ดราม่า และการต่อสู้เพื่อเข้ารอบน็อกเอาต์

ฮังการีขึ้นนำในนาทีที่ 19 จากการยิงไกลที่ถูกแฉลบเข้าประตูโดย Zoltán Gera แต่โปรตุเกสกลับมาตีเสมอจาก Nani ก่อนหมดครึ่งแรก

ครึ่งหลังเป็นไปอย่างดราม่า เมื่อฮังการีขึ้นนำอีกสองครั้งจากการยิงไกลของ Balázs Dzsudzsák แต่ Cristiano Ronaldo ที่อยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงประตูตีเสมอให้โปรตุเกสทั้งสองครั้ง ประตูแรกเป็นการยิงด้วยส้นเท้าที่สวยงาม และประตูที่สองเป็นการโหม่ง

การแข่งขันจบลงที่สกอร์ 3-3 ทำให้โปรตุเกสได้คะแนนสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ ความดราม่าและคุณภาพของประตูทำให้แมตช์นี้เป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของ EURO 2016

4. ฝรั่งเศส vs สาธารณรัฐไอร์แลนด์ – รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2-1)

การแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างฝรั่งเศสกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2016 เป็นเกมที่ทดสอบความแข็งแกร่งของทีมเจ้าภาพ การแข่งขันที่จัดขึ้นที่ Parc Olympique Lyonnais เริ่มต้นด้วยความช็อคเมื่อไอร์แลนด์ได้รับจุดโทษในนาทีที่ 2 ซึ่ง Robbie Brady ยิงให้ทีมรองขึ้นนำไปก่อน

ฝรั่งเศสต้องเผชิญกับความกดดันอย่างหนัก และพยายามหาทางทำลายแนวรับที่แข็งแกร่งของไอร์แลนด์ แต่หลังจากพักครึ่ง เกมก็เปลี่ยนไปในทิศทางของฝรั่งเศส ส่วนใหญ่เป็นเพราะ Antoine Griezmann ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมรุก

Griezmann ยิงสองประตูในเวลาห่างกันเพียงสี่นาที ประตูแรกเป็นการโหม่ง และประตูที่สองเป็นการยิงด้วยเท้าต่ำ ส่งฝรั่งเศสขึ้นนำและทำให้แฟนบอลเฮลั่น ไอร์แลนด์ต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คนเมื่อ Shane Duffy ถูกไล่ออกจากการทำฟาวล์ Griezmann

แม้ไอร์แลนด์จะพยายามต่อสู้ แต่ฝรั่งเศสก็สามารถรักษาความได้เปรียบและชนะไป 2-1 เกมนี้เป็นเกมที่ตื่นเต้นเร้าใจ โดยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ Griezmann ทำให้การแข่งขันนี้เป็นหนึ่งในแมตช์ที่ดีที่สุดของ UEFA European Football Championship 2016

5. อิตาลี vs สเปน – รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2-0)

การปะทะกันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างอิตาลีและสเปนเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2016 เป็นการแสดงถึงความเหนือชั้นทางแทคติกและเป็นหนึ่งในเกมที่โดดเด่นของ EURO 2016 การแข่งขันที่จัดขึ้นที่ Stade de France เมืองแซงต์-เดอนีส์ เป็นการรีแมตช์จากรอบชิงชนะเลิศของ EURO 2012

อิตาลีที่ขึ้นชื่อในด้านความแข็งแกร่งของเกมรับ ใช้แผนการเล่นอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สเปนที่มีเกมรุกที่ลื่นไหลต้องหาทางเจาะแนวรับไม่สำเร็จ อิตาลีขึ้นนำในนาทีที่ 33 เมื่อ Giorgio Chiellini ยิงประตูจากการเข้าชาร์จหลัง David De Gea ปัดลูกฟรีคิกของ Eder

สเปนพยายามหาทางตีเสมอ แต่แนวรับของอิตาลีที่นำโดย Gianluigi Buffon ยืนหยัดได้อย่างยอดเยี่ยม ในช่วงท้ายเกม Graziano Pellè ยิงประตูปิดเกมจากการโต้กลับเร็ว ทำให้อิตาลีชนะ 2-0 และส่งแชมป์เก่าตกรอบ

การแข่งขันนี้เป็นการแสดงถึงความเป็นระเบียบทางแทคติก ความแข็งแกร่งในการป้องกัน และการจบสกอร์ที่เด็ดขาด ทำให้มันเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของ EURO 2016


การแข่งขันที่ดีที่สุดของ UEFA European Football Championship 2016

ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของเวลส์เหนือเบลเยียม ชัยชนะของฝรั่งเศสต่อเยอรมนีและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ การเสมอกันระหว่างโปรตุเกสและฮังการี หรือการแสดงแทคติกของอิตาลีในการเจอสเปน เกมเหล่านี้ล้วนตรึงใจผู้ชมและทำให้เรานึกถึงเหตุผลที่ฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนทั่วโลกหลงรัก

เมื่อเราย้อนคิดถึงการแข่งขันที่ดีที่สุดใน European Championship 2016 เกมเหล่านี้โดดเด่นขึ้นมาเป็นเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ละเกมได้ฝากรอยประทับไว้ในบันทึกฟุตบอลอย่างไม่ลืมเลือน

Similar Posts