10 จุดโทษที่ดีที่สุดในยูโร 2020
การแข่งขันเพื่อเข้าร่วมยูฟ่า ยูโรเปี้ยน ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ 2020 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยูโร 2020 เต็มไปด้วยการต่อสู้ที่เข้มข้น ความพ่ายแพ้ที่น่าตกใจ และช่วงเวลาที่น่าจดจำ ขณะที่ทีมจากทั่วทั้งยุโรปต่างพยายามที่จะคว้าตำแหน่งในทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
กระบวนการคัดเลือกเต็มไปด้วยดราม่า เมื่อแต่ละชาติทุ่มเททุกอย่างในสนามเพื่อคว้าสิทธิ์ในการแข่งขันบนเวทีใหญ่ที่สุด การแข่งขันเหล่านี้ไม่เพียงแต่กำหนดว่าทีมใดจะได้เข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับความตื่นเต้นและความไม่คาดฝันที่ตามมาในตัวการแข่งขันเอง ในบทความนี้ เราจะสำรวจห้าแมตช์คัดเลือกที่โดดเด่นที่สุดของยูโร 2020 ซึ่งโดดเด่นทั้งในด้านความเข้มข้น เดิมพันสูง และความบันเทิงที่เต็มเปี่ยม
เส้นทางสู่ยูโร 2020: การเดินทางที่เต็มไปด้วยเดิมพันสูงและดราม่า
กระบวนการคัดเลือกสำหรับยูโร 2020 เป็นการเดินทางที่ท้าทายความสามารถและความแข็งแกร่งของทุกทีมที่มีส่วนร่วม เมื่อมีตำแหน่งในทัวร์นาเมนต์เป็นเดิมพัน ทุกแมตช์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และแรงกดดันที่ถาโถมต่อผู้เล่นและโค้ชก็มหาศาล
แมตช์คัดเลือกที่ดีที่สุดของยูโร 2020 คือแมตช์ที่ผสมผสานเดิมพันสูงกับฟุตบอลที่น่าตื่นเต้น สร้างช่วงเวลาที่จะถูกจดจำไปนานหลังจากเสียงนกหวีดสุดท้าย แมตช์เหล่านี้ไม่เพียงแต่กำหนดแคมเปญการคัดเลือก แต่ยังเป็นการบอกใบ้ถึงดราม่าและความตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้นในยูโร 2020 มาค้นพบห้าแมตช์คัดเลือกที่จับความสำคัญของการเดินทางนี้
1. เซอร์เบีย vs สกอตแลนด์ – เพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศ (12 พฤศจิกายน 2020)
หนึ่งในแมตช์คัดเลือกที่เต็มไปด้วยดราม่าและอารมณ์มากที่สุดสำหรับยูโร 2020 คือรอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟระหว่างเซอร์เบียและสกอตแลนด์ ทั้งสองทีมต่างต่อสู้เพื่อคว้าตำแหน่งในทัวร์นาเมนต์ และเดิมพันก็สูงอย่างมาก แมตช์นี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยสกอตแลนด์ขึ้นนำด้วยประตูของไรอัน คริสตี้ในครึ่งหลัง
อย่างไรก็ตาม เซอร์เบียตีเสมอได้ในช่วงท้ายของเวลาปกติ ส่งผลให้แมตช์นี้ต้องต่อเวลาพิเศษและในที่สุดก็ตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ ในการดวลจุดโทษ สกอตแลนด์รักษาความสงบนิ่งได้ โดยผู้รักษาประตูเดวิด มาร์แชลล์เซฟจุดโทษของอเล็กซานดาร์ มิโตรวิชได้ ส่งผลให้สกอตแลนด์ผ่านเข้ารอบทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในรอบ 23 ปี ชัยชนะนี้จุดประกายการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วสกอตแลนด์ และเป็นจุดสูงสุดของการเดินทางที่ยากลำบากในแคมเปญคัดเลือกนี้
2. ไอซ์แลนด์ vs ฮังการี – เพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศ (12 พฤศจิกายน 2020)
อีกหนึ่งรอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟที่เต็มไปด้วยดราม่าคือการปะทะกันระหว่างไอซ์แลนด์และฮังการี ไอซ์แลนด์ ที่เป็นทีมโปรดในยูโร 2016 กำลังพยายามที่จะเข้ารอบยูโรติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง ขณะที่ฮังการีก็ต้องการสร้างชื่อเสียงในทัวร์นาเมนต์นี้เช่นกัน แมตช์นี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดตั้งแต่เริ่มเกม โดยไอซ์แลนด์ขึ้นนำก่อนจากการยิงของกิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน
ฮังการีบุกหนักเพื่อหาประตูตีเสมอ และในช่วงท้ายของเกม พวกเขาก็ทำได้สำเร็จจากลูกยิงของโลอิค เนโก้ และเมื่อดูเหมือนว่าแมตช์นี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงต่อเวลา ฮังการีกลับมาทำประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากการยิงของโดมินิก โซบอสซ์ไล ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่ยูโร 2020
3. โปรตุเกส vs เซอร์เบีย – กลุ่ม B (25 มีนาคม 2019)
แมตช์คัดเลือกระหว่างโปรตุเกสและเซอร์เบียในกลุ่ม B เป็นการปะทะที่เต็มไปด้วยดราม่า การถกเถียง และเดิมพันสูง แมตช์จบลงด้วยการเสมอ 1-1 แต่เหตุการณ์ในสนามทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในแมตช์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในแคมเปญคัดเลือกนี้
โปรตุเกส ในฐานะแชมป์ยุโรป กำลังมองหาที่จะยืนยันความแข็งแกร่งของพวกเขา แต่พวกเขากลับพบกับความท้าทายจากเซอร์เบียที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง คริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นหัวใจของการแข่งขันนี้ แต่เกิดข้อขัดแย้งขึ้นเมื่อประตูที่ดูเหมือนถูกต้องของเขาในช่วงท้ายเกมไม่ถูกนับ ส่งผลให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงจากผู้เล่นและทีมงานของโปรตุเกส
4. นอร์เวย์ vs สเปน – กลุ่ม F (12 ตุลาคม 2019)
ในกลุ่ม F การปะทะกันระหว่างนอร์เวย์และสเปนเป็นหนึ่งในแมตช์ที่น่าตื่นเต้นและต่อสู้กันอย่างหนักในแคมเปญคัดเลือกนี้ สเปน หนึ่งในทีมเต็งของทัวร์นาเมนต์ กำลังมองหาที่จะรักษาสถิติที่สมบูรณ์แบบของพวกเขา ขณะที่นอร์เวย์กำลังพยายามที่จะรักษาความหวังในการเข้ารอบยูโร 2020
แมตช์นี้เต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนเกมรุก โดยสเปนขึ้นนำจากจุดโทษของเซร์คิโอ รามอส แต่ นอร์เวย์ไม่ยอมแพ้ และในช่วงท้ายเกม พวกเขาได้รับจุดโทษของตัวเอง โจชัว คิง ก้าวขึ้นมารับหน้าที่และยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ ทำให้แมตช์นี้จบลงด้วยสกอร์ 1-1 ผลการแข่งขันนี้เป็นแรงกระตุ้นสำคัญสำหรับความหวังในการคัดเลือกของนอร์เวย์ และแสดงให้เห็นว่าทีมที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังสามารถถูกท้าทายได้ในเส้นทางสู่ยูโร 2020
5. เยอรมนี vs เนเธอร์แลนด์ – กลุ่ม C (6 กันยายน 2019)
การปะทะกันระหว่างเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในการแข่งขันที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในฟุตบอลระดับนานาชาติ และแมตช์คัดเลือกในกลุ่ม C นี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งสองทีมต่างต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดในกลุ่ม และแมตช์นี้ก็เป็นการแสดงของฟุตบอลคุณภาพสูงและการแข่งขันที่เข้มข้น
เยอรมนีขึ้นนำเร็วจากการยิงของแซร์จ นาบรี แต่เนเธอร์แลนด์กลับมาตีเสมอด้วยการยิงสองประตูในช่วงครึ่งหลัง เยอรมนีตีเสมอได้อีกครั้ง ทำให้การแข่งขันเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายที่ตึงเครียด
แต่ในช่วงเวลาที่สำคัญ เนเธอร์แลนด์ทำประตูได้อีกสองครั้ง รวมถึงประตูท้ายเกมจากจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ทำให้พวกเขาชนะ 4-2 แมตช์นี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของทีมดัตช์ และเป็นการเตือน
ให้เห็นว่ากระบวนการคัดเลือกสามารถสร้างการแข่งขันที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความตื่นเต้นได้ แม้กระทั่งก่อนทัวร์นาเมนต์ใหญ่จะเริ่มขึ้น
แมตช์ที่นิยามเส้นทางสู่ยูโร 2020
เส้นทางสู่ยูโร 2020 เต็มไปด้วยความท้าทาย ความประหลาดใจ และช่วงเวลาที่ไม่อาจลืมเลือน ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับทัวร์นาเมนต์เอง การแข่งขันคัดเลือกที่ถูกเน้นในบทความนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการคว้าตำแหน่งในทัวร์นาเมนต์ แต่ยังเกี่ยวข้องกับดราม่า อารมณ์ และความเข้มข้นที่ทำให้ฟุตบอลเป็นกีฬาที่น่าหลงใหล
เมื่อเราย้อนนึกถึงเส้นทางสู่ยูโร 2020 แมตช์คัดเลือกเหล่านี้จะถูกจดจำในฐานะการแข่งขันที่จับจิตวิญญาณของการแข่งขันและเสน่ห์ของเกมฟุตบอลได้อย่างแท้จริง