15 สนามสุดยอดใน EURO 2016: เวทีประวัติศาสตร์แห่งฟุตบอลยุโรป

การแข่งขัน UEFA European Football Championship 2016 ไม่เพียงเป็นเวทีที่แสดงถึงความสามารถด้านฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมของยุโรปเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองสนามที่งดงามและน่าประทับใจที่ได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

จากสนามที่ยิ่งใหญ่ของ Stade de France ไปจนถึงบรรยากาศที่ใกล้ชิดของ Stade Geoffroy-Guichard สนามเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่จัดการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราวทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้


สนามที่ดีที่สุดของ UEFA European Football Championship 2016: สนามที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์

สนามที่ดีที่สุดของ euro 2016

การแข่งขัน UEFA European Football Championship 2016 หรือ EURO 2016 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ตราตรึงใจแฟนบอลทั่วโลก ซึ่งจัดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส การแข่งขันนี้ถูกจัดขึ้นในสนามที่เป็นเอกลักษณ์และมีประวัติศาสตร์มากที่สุดในประเทศ

สนามเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงฉากหลังของการแข่งขันที่ตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่สร้างบรรยากาศและความเร้าใจให้กับทัวร์นาเมนต์ ในบทความนี้เราจะสำรวจสนามที่ดีที่สุด 15 แห่งของ EURO 2016 โดยไฮไลท์ลักษณะเฉพาะที่ทำให้แต่ละแห่งเป็นสถานที่พิเศษในเรื่องราวของศึกชิงแชมป์ยุโรปครั้งนี้

1. Stade de France (แซงต์-เดอนี)

Stade de France (แซงต์-เดอนี)

ในฐานะสนามที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสและสนามระดับชาติ Stade de France เป็นศูนย์กลางของ EURO 2016 ด้วยความจุมากกว่า 80,000 ที่นั่ง สนามนี้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันนัดเปิดและนัดชิงชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์

ตั้งอยู่ในแซงต์-เดอนี ชานกรุงปารีส Stade de France มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจและประวัติศาสตร์ที่มีความหลากหลาย เช่น การเป็นเจ้าภาพนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1998

ใน EURO 2016 สนามแห่งนี้ได้เป็นสักขีพยานในช่วงเวลาที่น่าจดจำ รวมถึงชัยชนะที่ตื่นเต้นของฝรั่งเศสเหนือเยอรมนีในรอบรองชนะเลิศ และการคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ของโปรตุเกสในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้มันเป็นสนามที่ดีที่สุดใน EURO 2016

2. Parc des Princes (ปารีส)

ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงปารีส Parc des Princes เป็นหนึ่งในสนามที่เป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส ด้วยความจุ 48,000 ที่นั่ง สนามนี้เป็นบ้านของ Paris Saint-Germain (PSG)

ใน EURO 2016 Parc des Princes เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันสำคัญหลายแมตช์ รวมถึงการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างเวลส์และไอร์แลนด์เหนือ

บรรยากาศที่ใกล้ชิดและทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองทำให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล และช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงให้เป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดของ EURO 2016

3. Stade Vélodrome (มาร์แซย์)

Stade Vélodrome ในมาร์แซย์ มีชื่อเสียงในด้านบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยพลังและการออกแบบที่โดดเด่น ด้วยความจุมากกว่า 67,000 ที่นั่ง สนามนี้เป็นสนามสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสและเป็นบ้านของ Olympique de Marseille

ใน EURO 2016 Stade Vélodrome เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 6 นัด รวมถึงรอบรองชนะเลิศระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนี บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความคึกคักพร้อมกับทำเลที่ตั้งที่สวยงามริมชายฝั่งมาร์แซย์ ทำให้มันเป็นหนึ่งในสนามที่โดดเด่นที่สุดของทัวร์นาเมนต์

4. Parc Olympique Lyonnais (ลียง)

Parc Olympique Lyonnais หรือที่รู้จักในชื่อ Groupama Stadium เป็นหนึ่งในสนามที่ทันสมัยที่สุดในฝรั่งเศส เปิดใช้งานในปี 2016 ด้วยความจุ 59,000 ที่นั่ง สนามนี้เป็นบ้านของ Olympique Lyonnais และเป็นสถานที่สำคัญใน EURO 2016

สนามนี้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 6 นัด รวมถึงการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างฝรั่งเศสและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งฝรั่งเศสได้รับแรงเชียร์จากแฟนบอลในบ้าน ทำให้สามารถคว้าชัยชนะมาได้ บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยทำให้มันเป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดใน EURO 2016

5. Stade Pierre-Mauroy (ลีลล์)

Stade Pierre-Mauroy ในลีลล์ เป็นสนามที่ทันสมัยและหลากหลาย ด้วยหลังคาที่เปิดปิดได้ ทำให้สามารถรองรับการจัดงานที่หลากหลาย ด้วยความจุ 50,000 ที่นั่ง สนามนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สำคัญที่สุดใน EURO 2016

สนามนี้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 6 นัด รวมถึงรอบก่อนรองชนะเลิศระหว่างเวลส์และเบลเยียม ซึ่งเวลส์สามารถสร้างชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ได้ Stade Pierre-Mauroy ด้วยการออกแบบที่น่าทึ่งและบรรยากาศที่เร้าใจ ทำให้เป็นสนามที่น่าจดจำสำหรับแฟนบอลและนักเตะ

6. Stade Matmut Atlantique (บอร์โดซ์)

ตั้งอยู่ในบอร์โดซ์ Stade Matmut Atlantique เป็นสนามที่มีดีไซน์ทันสมัยและหรูหรา ด้วยความจุ 42,000 ที่นั่ง สนามนี้เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญใน EURO 2016 โดยเป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 5 นัด รวมถึงรอบก่อนรองชนะเลิศระหว่างเยอรมนีและอิตาลี ซึ่งจบลงด้วยการดวลจุดโทษที่ตื่นเต้น

7. Stade Geoffroy-Guichard (แซงต์-เอเตียน)

Stade Geoffroy-Guichard หรือที่รู้จักในชื่อ “Le Chaudron” (หม้อเดือด) มีชื่อเสียงในด้านบรรยากาศที่เข้มข้นและแฟนบอลที่คลั่งไคล้ ตั้งอยู่ในแซงต์-เอเตียน สนามนี้มีความจุ 42,000 ที่นั่งและเป็นหนึ่งในสนามที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส

ใน EURO 2016 สนามนี้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 4 นัด รวมถึงการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และโปแลนด์ ซึ่งจบลงด้วยการดวลจุดโทษที่น่าตื่นเต้น ประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นและบรรยากาศที่เร้าใจทำให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลและเป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดใน EURO 2016

8. Stadium de Toulouse (ตูลูส)

Stadium de Toulouse ด้วยความจุ 33,000 ที่นั่ง เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ใกล้ชิดที่สุดของ EURO 2016 ตั้งอยู่บนเกาะในแม่น้ำการอน บรรยากาศและการสนับสนุนจากแฟนบอลในท้องถิ่นที่คลั่งไคล้ทำให้เป็นสนามที่โดดเด่น

สนามนี้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 4 นัด รวมถึงการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างเวลส์และเบลเยียม ความใกล้ชิดกับการกระทำและบรรยากาศที่สดใสทำให้เป็นสถานที่พิเศษใน EURO 2016

9. Stade de Nice (นีซ)

Stade de Nice หรือที่รู้จักในชื่อ Allianz Riviera เป็นสนามที่ทันสมัยและมีความจุ 35,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่บนริเวียราฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในสนามที่สวยงามที่สุดใน EURO 2016

สนามนี้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 4 นัด รวมถึงการพบกันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างอังกฤษและไอซ์แลนด์ ซึ่งไอซ์แลนด์สามารถสร้างความประหลาดใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ สนามที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยทำให้เป็นสถานที่โดดเด่นใน European Championship 2016

10. Stade Bollaert-Delelis (ลองส์)

Stade Bollaert-Delelis ในลองส์ มีชื่อเสียงในด้านแฟนบอลที่คลั่งไคล้และเสียงเชียร์ที่ดังสนั่น ด้วยความจุ 38,000 ที่นั่ง สนามนี้ใหญ่กว่าประชากรของเมือง ทำให้เป็นสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์

ใน EURO 2016 สนามนี้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 4 นัด รวมถึงการพบกันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างเวลส์และไอร์แลนด์เหนือ บรรยากาศที่ใกล้ชิดและพลังของแฟนบอลท้องถิ่นทำให้เป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดใน EURO 2016

11. Stade de l’Abbé-Deschamps (โอแซร์)

แม้จะไม่ใช่หนึ่งในสนามที่ใหญ่ที่สุด แต่ Stade de l’Abbé-Deschamps ในโอแซร์ มีประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่เข้มข้น ด้วยความจุเพียงไม่ถึง 24,000 ที่นั่ง สนามนี้เป็นสถานที่สำคัญสำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกหลายรายการก่อนถึง EURO 2016

12. Stade Armand-Cesari (บาสเตีย)

Stade Armand-Cesari ตั้งอยู่บนเกาะคอร์ซิกา มีชื่อเสียงในด้านบรรยากาศที่คลั่งไคล้และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ด้วยความจุ 16,000 ที่นั่ง เป็นหนึ่งในสนามที่เล็กที่สุดที่เกี่ยวข้องกับ EURO 2016

แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ แต่บทบาทในการแข่งขันรอบคัดเลือกและทำเลที่ตั้งที่ไม่เหมือนใครทำให้มันเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราวใน EURO 2016

13. Stade Louis II (โมนาโก)

Stade Louis II ตั้งอยู่ในนครรัฐโมนาโกที่หรูหรา มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและฉากหลังที่งดงาม ด้วยความจุ 18,000 ที่นั่ง เป็นหนึ่งในสนามที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดในฝรั่งเศส

แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันใน EURO 2016 แต่ความเชื่อมโยงกับฟุตบอลฝรั่งเศสและบทบาทในการแข่งขันยุโรปที่ผ่านมา ทำให้มันเป็นสนามที่น่าสนใจ

14. Stade de la Mosson (มงต์เปลลิเยร์)

Stade de la Mosson ในมงต์เปลลิเยร์ เป็นสนามที่มีประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่เข้มข้น ด้วยความจุ 32,000 ที่นั่ง สนามนี้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรอบคัดเลือกหลายรายการของ EURO 2016

15. Stade Auguste-Delaune (แร็งส์)

Stade Auguste-Delaune ในแร็งส์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเป็นสนามจัดการแข่งขันตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ด้วยความจุ 21,000 ที่นั่ง สนามนี้มีบทบาทสำคัญในการแข่งขันรอบคัดเลือกของ EURO 2016 ประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นและการสนับสนุนจากแฟนบอลท้องถิ่นทำให้มันเป็นสนามที่น่าจดจำในช่วงเตรียมการของทัวร์นาเมนต์


สนามที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ European Championship 2016

เมื่อเราย้อนกลับไปมอง EURO 2016 สนามทั้ง 15 แห่งนี้โดดเด่นในฐานะสถานที่ที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ ซึ่งแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์และความพิเศษของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์และประเพณีของ Stade de France การออกแบบที่ทันสมัยของ Parc Olympique Lyonnais หรือบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยพลังของ Stade Vélodrome สนามเหล่านี้ได้สร้างเวทีที่สมบูรณ์แบบสำหรับศึกชิงแชมป์ยุโรป 2016

Similar Posts