แชมเปี้ยนส์ลีกดาวซัลโวประจำฤดูกาล (รอบแบ่งกลุ่มถึงรอบชิงชนะเลิศ)
ในฤดูกาล 2019/20 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าชาวโปแลนด์ของบาเยิร์น มิวนิค ได้ยุติการครองตำแหน่งดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ลีกของคริสเตียโน โรนัลโด และลิโอเนล เมสซีที่ต่อเนื่องมานานถึง 12 ฤดูกาล โดยในช่วงเวลานั้น ทั้งโรนัลโดและเมสซีผลัดกันเป็นดาวซัลโวหรือครองตำแหน่งร่วมกันในทุกๆ ฤดูกาล การที่เลวานดอฟสกี้สามารถแย่งชิงตำแหน่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความยอดเยี่ยมของเขาในการทำประตูในรายการที่มีความยากลำบากและมีการแข่งขันสูงเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลถัดมา 2020/21 เลวานดอฟสกี้ไม่สามารถรักษาตำแหน่งดาวซัลโวของเขาได้ โดยตำแหน่งนั้นตกเป็นของเออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าหนุ่มจากดอร์ทมุนด์ ซึ่งทำได้ถึง 10 ประตู นำหน้าคีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ทำได้ 8 ประตู ทั้งฮาแลนด์และเอ็มบัปเป้ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นคู่แข่งในการทำประตูที่มีฝีเท้าเฉียบคมและสามารถแข่งขันในระดับสูงของฟุตบอลยุโรปได้เหมือนกับที่โรนัลโดและเมสซีเคยทำได้มากว่าทศวรรษ
คาดการณ์ดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นจริง เมื่อในฤดูกาล 2022/23 เออร์ลิง ฮาแลนด์ ครองตำแหน่งดาวซัลโวอีกครั้ง โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ต่อเนื่องและการพัฒนาในฐานะกองหน้าชั้นนำของยุโรป ในฤดูกาลต่อมา คีเลียน เอ็มบัปเป้ ก็สามารถครองตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับฮาแลนด์ได้ ทำให้การแข่งขันระหว่างสองคนนี้เป็นเรื่องที่น่าจับตามองมากขึ้น เพราะทั้งสองยังมีอายุน้อยและมีโอกาสที่จะทำประตูและสร้างสถิติใหม่ๆ ในแชมเปี้ยนส์ลีกอีกมากมาย
แชมเปี้ยนส์ลีกดาวซัลโวประจำฤดูกาล (รอบแบ่งกลุ่มถึงรอบชิงชนะเลิศ)
ฤดูกาล | ผู้ทำประตูสูงสุด | จำนวนประตู |
---|---|---|
2023/24 | แฮร์รี เคน (บาเยิร์น), คีเลียน เอ็มบัปเป้ (ปารีส) | 8 |
2022/23 | เออร์ลิง ฮาแลนด์ (แมนฯ ซิตี้) | 12 |
2021/22 | คาริม เบนเซมา (เรอัล มาดริด) | 15 |
2020/21 | เออร์ลิง ฮาแลนด์ (ดอร์ทมุนด์) | 10 |
2019/20 | โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น) | 15 |
2018/19 | ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา) | 12 |
2017/18 | คริสเตียโน โรนัลโด (เรอัล มาดริด) | 15 |
2016/17 | คริสเตียโน โรนัลโด (เรอัล มาดริด) | 12 |
2015/16 | คริสเตียโน โรนัลโด (เรอัล มาดริด) | 16 |
2014/15 | ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา), เนย์มาร์ (บาร์เซโลนา), คริสเตียโน โรนัลโด (เรอัล มาดริด) | 10 |
2013/14 | คริสเตียโน โรนัลโด (เรอัล มาดริด) | 17 |
2012/13 | คริสเตียโน โรนัลโด (เรอัล มาดริด) | 12 |
2011/12 | ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา) | 14 |
2010/11 | ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา) | 12 |
2009/10 | ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา) | 8 |
2008/09 | ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา) | 9 |
2007/08 | คริสเตียโน โรนัลโด (แมนฯ ยูไนเต็ด) | 8 |
2006/07 | กาก้า (เอซี มิลาน) | 10 |
2005/06 | อังเดร เชฟเชนโก (เอซี มิลาน) | 9 |
2004/05 | รูด ฟาน นิสเตลรอย (แมนฯ ยูไนเต็ด) | 8 |
2003/04 | เฟอร์นันโด มอริเอนเตส (โมนาโก) | 9 |
2002/03 | รูด ฟาน นิสเตลรอย (แมนฯ ยูไนเต็ด) | 12 |
2001/02 | รูด ฟาน นิสเตลรอย (แมนฯ ยูไนเต็ด) | 10 |
2000/01 | ราอูล กอนซาเลซ (เรอัล มาดริด) | 7 |
1999/2000 | มาริโอ จาร์เดล (ปอร์โต้), ริวัลโด (บาร์เซโลนา), ราอูล กอนซาเลซ (เรอัล มาดริด) | 10 |
1998/99 | อังเดร เชฟเชนโก (ดินาโม เคียฟ), ดไวท์ ยอร์ค (แมนฯ ยูไนเต็ด) | 8 |
1997/98 | อเลสซานโดร เดล ปิเอโร (ยูเวนตุส) | 10 |
1996/97 | มิลินโก้ แพนติช (แอตเลติโก มาดริด) | 5 |
1995/96 | ยาริ ลิตมาเนน (อาแจ็กซ์) | 9 |
1994/95 | จอร์จ เวอาห์ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง) | 7 |
1993/94 | ฮริสโต สตอยช์คอฟ (บาร์เซโลนา) | 5 |
1992/93 | ฟรองค์ โซเซ่ (มาร์กเซย) | 5 |
แชมเปี้ยนส์ลีกดาวซัลโวประจำฤดูกาล: สถิติและการเปลี่ยนแปลงของดาวซัลโวในยุโรป
ในฤดูกาล 2019/20 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าชาวโปแลนด์ของบาเยิร์น มิวนิค ได้ยุติการครองตำแหน่งดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ลีกของคริสเตียโน โรนัลโด และลิโอเนล เมสซีที่ต่อเนื่องมานานถึง 12 ฤดูกาล โดยในช่วงเวลานั้น ทั้งโรนัลโดและเมสซีผลัดกันเป็นดาวซัลโวหรือครองตำแหน่งร่วมกันในทุกๆ ฤดูกาล การที่เลวานดอฟสกี้สามารถแย่งชิงตำแหน่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความยอดเยี่ยมของเขาในการทำประตูในรายการที่มีความยากลำบากและมีการแข่งขันสูงเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลถัดมา 2020/21 เลวานดอฟสกี้ไม่สามารถรักษาตำแหน่งดาวซัลโวของเขาได้ โดยตำแหน่งนั้นตกเป็นของเออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าหนุ่มจากดอร์ทมุนด์ ซึ่งทำได้ถึง 10 ประตู นำหน้าคีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ทำได้ 8 ประตู ทั้งฮาแลนด์และเอ็มบัปเป้ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นคู่แข่งในการทำประตูที่มีฝีเท้าเฉียบคมและสามารถแข่งขันในระดับสูงของฟุตบอลยุโรปได้เหมือนกับที่โรนัลโดและเมสซีเคยทำได้มากว่าทศวรรษ
คาดการณ์ดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นจริง เมื่อในฤดูกาล 2022/23 เออร์ลิง ฮาแลนด์ ครองตำแหน่งดาวซัลโวอีกครั้ง โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ต่อเนื่องและการพัฒนาในฐานะกองหน้าชั้นนำของยุโรป ในฤดูกาลต่อมา คีเลียน เอ็มบัปเป้ ก็สามารถครองตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับฮาแลนด์ได้ ทำให้การแข่งขันระหว่างสองคนนี้เป็นเรื่องที่น่าจับตามองมากขึ้น เพราะทั้งสองยังมีอายุน้อยและมีโอกาสที่จะทำประตูและสร้างสถิติใหม่ๆ ในแชมเปี้ยนส์ลีกอีกมากมาย