5 อันดับความขัดแย้งที่ใหญ่ที่สุดในยูโร 2020
ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ 2020 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยูโร 2020 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เต็มไปด้วยช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น ประตูที่สวยงาม และการแข่งขันที่น่าจดจำ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความตื่นเต้นและดราม่าแล้ว ทัวร์นาเมนต์นี้ยังมีเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นขัดแย้งเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึง 5 ประเด็นขัดแย้งที่สำคัญที่สุดของยูโร 2020 โดยพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการถกเถียงและมีผลกระทบอย่างยิ่งต่อทัวร์นาเมนต์นี้
5 ประเด็นขัดแย้งที่สร้างความฮือฮาในยูโร 2020
ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลและอารมณ์ และด้วยสิ่งนี้เองทำให้เกิดประเด็นขัดแย้งที่อาจกำหนดทิศทางของทัวร์นาเมนต์ได้ ในยูโร 2020 การนำ VAR มาใช้ การตัดสินจังหวะล้ำหน้าที่แน่นอน และการให้จุดโทษที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัจจัยที่ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อน ทั้งในและนอกสนาม ประเด็นขัดแย้งเหล่านี้มักเปลี่ยนทิศทางของการแข่งขัน มีผลต่อผลลัพธ์ และกลายเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางหลังจากเสียงนกหวีดสุดท้าย เรามาสำรวจ 5 ประเด็นขัดแย้งที่สำคัญที่สุดในยูโร 2020 ที่สร้างความฮือฮาและเพิ่มความดราม่าให้กับทัวร์นาเมนต์นี้
1. จุดโทษที่เป็นที่ถกเถียงของอังกฤษกับเดนมาร์ก – รอบรองชนะเลิศ
หนึ่งในประเด็นขัดแย้งที่ใหญ่ที่สุดของยูโร 2020 เกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศระหว่างอังกฤษและเดนมาร์ก ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ขณะที่สกอร์ยังคงเสมอกัน 1-1 อังกฤษได้รับจุดโทษหลังจากราฮีม สเตอร์ลิง ล้มลงในกรอบเขตโทษจากการท้าทายของโจอาคิม เมห์เล่ กองหลังชาวเดนมาร์ก การตัดสินนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยหลายคนเชื่อว่าสเตอร์ลิงล้มลงง่ายเกินไปและการสัมผัสนั้นมีน้อยมาก VAR ได้ตรวจสอบเหตุการณ์นี้แต่ยังคงยืนยันการตัดสินของผู้ตัดสิน ทำให้แฟนบอลชาวเดนมาร์กและผู้ชมที่เป็นกลางไม่พอใจ แฮร์รี่ เคน ยิงจุดโทษในครั้งแรกถูกเซฟไว้ได้โดยแคสเปอร์ ชไมเคิล แต่เขายิงซ้ำเข้าประตูได้ ส่งผลให้อังกฤษเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ การตัดสินจุดโทษนี้กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง บางคนมองว่าเป็นการตัดสินที่อ่อนแอ ในขณะที่คนอื่นๆ โต้แย้งว่าเป็นการฟาวล์ที่ชัดเจน เหตุการณ์นี้กลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญของยูโร 2020 และจุดชนวนให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับการใช้ VAR และความเป็นอัตวิสัยของการตัดสินใจของผู้ตัดสิน
2. ดราม่าการยิงจุดโทษของฝรั่งเศสกับสวิตเซอร์แลนด์ – รอบ 16 ทีมสุดท้าย
การแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในแมตช์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของยูโร 2020 แต่ก็ไม่พ้นจากประเด็นขัดแย้ง หลังจากเสมอกัน 3-3 เกมต้องเข้าสู่การดวลจุดโทษ ในระหว่างการยิงจุดโทษ ผู้รักษาประตูชาวฝรั่งเศส ฮูโก้ ยอริส ถูกกล่าวหาว่าก้าวออกจากเส้นก่อนจะเซฟจุดโทษของสวิตเซอร์แลนด์ได้ แต่ VAR ไม่เข้ามาแทรกแซง และการเซฟนั้นก็ถูกยืนยัน ทำให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับความสม่ำเสมอในการใช้ VAR ในการบังคับใช้กฎที่ว่าผู้รักษาประตูต้องมีเท้าอย่างน้อยหนึ่งข้างอยู่บนเส้นจนกว่าบอลจะถูกยิง นอกจากนี้ การยิงจุดโทษชี้ขาดของคีเลียน เอ็มบัปเป้ ถูกเซฟโดยยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูชาวสวิส ส่งผลให้ฝรั่งเศสตกรอบ โดยมีการกล่าวหาว่าซอมเมอร์ได้ล้ำเส้นเช่นกัน แต่ VAR ก็ไม่ได้เรียกให้ยิงใหม่ เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการใช้ VAR และความสม่ำเสมอในการใช้กฎในทุกแมตช์
3. ประตูที่ถูกยกเลิกของเยอรมนีกับอังกฤษ – รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างเยอรมนีและอังกฤษ มีประเด็นขัดแย้งเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเยอรมนีมีประตูที่ถูกยกเลิกเนื่องจากล้ำหน้า ในขณะที่อังกฤษนำ 1-0 เยอรมนีคิดว่าพวกเขาทำประตูตีเสมอได้เมื่อโธมัส มุลเลอร์ยิงเข้าประตูไป แต่ธงของไลน์แมนยกขึ้น และหลังจากการตรวจสอบ VAR ประตูถูกยกเลิกเนื่องจากการล้ำหน้าเพียงเล็กน้อย การตัดสินใจนี้สร้างความหงุดหงิดให้กับทีมเยอรมัน เนื่องจากการล้ำหน้าเป็นเรื่องที่ใกล้เคียงมาก และบางคนอ้างว่ามุลเลอร์อยู่ในแนวเดียวกับกองหลังคนสุดท้าย ประตูที่ถูกยกเลิกนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของการแข่งขัน ขณะที่อังกฤษยิงประตูที่สองและคว้าชัยชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนในฟุตบอลและบทบาทของ VAR ในการตัดสินใจที่รวดเร็วซึ่งอาจเปลี่ยนทิศทางของแมตช์ได้
4. จุดโทษของสาธารณรัฐเช็กกับโครเอเชีย – รอบแบ่งกลุ่ม
อีกหนึ่งประเด็นขัดแย้งเกิดขึ้นในรอบแบ่งกลุ่มระหว่างสาธารณรัฐเช็กและโครเอเชีย สาธารณรัฐเช็กได้รับจุดโทษหลังจากที่เดยัน ลอฟเรน ถูกตัดสินว่าศอกใส่พาทริค ชิคระหว่างการแย่งบอลกลางอากาศในกรอบเขตโทษ ชิคล้มลงพร้อมกับจมูกที่มีเลือดออก และหลังจากการตรวจสอบ VAR ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ ลอฟเรนประท้วงการตัดสินใจนี้ โดยอ้างว่าการท้าทายของเขาเป็นการเล่นที่ยุติธรรมและชิคได้แสดงอาการเกินจริง การตัดสินจุดโทษนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยหลายคนมองว่ามันเป็นการตัดสินที่รุนแรง และการสัมผัสเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าการตั้งใจ ชิคยิงจุดโทษเข้าไป ทำให้สาธารณรัฐเช็กเสมอกับโครเอเชีย 1-1 เหตุการณ์นี้ได้จุดประกายการถกเถียงอีกครั้งเกี่ยวกับการตีความกติกาฟาวล์ในกรอบเขตโทษ โดยเฉพาะในยุคของ VAR
5. ประตูที่ถูกยกเลิกของสเปนกับอิตาลี – รอบรองชนะเลิศ
ในรอบรองชนะเลิศระหว่างสเปนและอิตาลี เกิดประเด็นขัดแย้งขึ้นเมื่อสเปนมีประตูที่ถูกยกเลิกเนื่องจากล้ำหน้า ในครึ่งหลังขณะที่สกอร์ยังคงเสมอ 0-0 อัลบาโร่ โมราต้า คิดว่าเขายิงให้สเปนนำได้ แต่ไลน์แมนชี้ว่าเป็นลูกล้ำหน้า และหลังจากการตรวจสอบ VAR ประตูถูกยกเลิก
การตัดสินนี้เป็นเรื่องที่ใกล้เคียงมาก โดยการรีเพลย์แสดงให้เห็นว่ามอราต้าล้ำหน้าเพียงเล็กน้อย การยกเลิกประตูนี้เปลี่ยนไดนามิกของเกม เนื่องจากอิตาลีเป็นฝ่ายขึ้นนำด้วยประตูของเฟเดริโก้ เคียซ่า แม้ว่าสเปนจะตีเสมอได้ในเวลาต่อมา แต่พวกเขาก็ถูกเขี่ยออกจากการแข่งขันในช่วงดวลจุดโทษ เหตุการณ์นี้เป็นการเพิ่มให้กับรายชื่อประเด็นขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับ VAR ในยูโร 2020 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการตัดสินการล้ำหน้าอย่างแม่นยำในเวลาจริง
ช่วงเวลาที่สร้างความฮือฮา – ทุกความขัดแย้งในยูโร 2020
ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ 2020 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เต็มไปด้วยช่วงเวลาที่น่าจดจำ แต่ก็ยังมีประเด็นขัดแย้งหลายประเด็นที่จุดประกายการถกเถียงและการพูดคุยในหมู่แฟนบอล นักเตะ และนักวิเคราะห์ เมื่อเราย้อนกลับไปดูทัวร์นาเมนต์นี้ ประเด็นขัดแย้งเหล่านี้จะถูกจดจำว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เกิดความรู้สึกหลากหลาย