ฟุตบอลโลก 2018 รัสเซีย
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียเป็นการแข่งขันครั้งที่ 21 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายนถึง 15 กรกฎาคม 2018
นี่เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกถูกจัดขึ้นในยุโรปตะวันออก โดยมีทีมชาติ 32 ทีมแข่งขันกันตลอดระยะเวลา 1 เดือนใน 12 สนามจาก 11 เมืองต่างๆ
ฝรั่งเศสได้เป็นแชมป์โลก โดยคว้าแชมป์โลกครั้งที่สองของพวกเขาหลังจากเอาชนะโครเอเชียด้วยคะแนน 4-2 ในรอบชิงชนะเลิศที่สนามลุจนีกีในมอสโก
ฟุตบอลโลก 2018 ผู้เล่นยอดเยี่ยม
มีผู้เล่นหลายคนที่ได้ฝากผลงานสำคัญในฟุตบอลโลก 2018 แต่มีเพียงไม่กี่คนที่โดดเด่นที่สุดในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์
ลูก้า โมดริช จากโครเอเชียได้รับรางวัลลูกบอลทองคำในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ โดยนำทีมของเขาไปถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวรุ่งจากฝรั่งเศสก็เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่โดดเด่น คว้ารางวัลผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมจากผลงานอันโดดเด่น รวมถึงการทำประตูในรอบชิงชนะเลิศ
เอเด็น อาซาร์ จากเบลเยียมก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยนำทีมของเขาจบอันดับสามและได้รับรางวัลลูกบอลเงินในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยมอันดับสองของทัวร์นาเมนต์
อ็องตวน กรีซมันน์ จากฝรั่งเศส ซึ่งมีบทบาทสำคัญในชัยชนะของฝรั่งเศส ก็ได้รับรางวัลลูกบอลทองแดงจากการมีส่วนร่วมตลอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018
ฟุตบอลโลก 2018 ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม
ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ผู้รักษาประตูจากเบลเยียมได้รับรางวัลถุงมือทองคำในฐานะผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของฟุตบอลโลก 2018
กูร์ตัวส์มีบทบาทสำคัญในการนำเบลเยียมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ด้วยการเซฟลูกที่น่าทึ่งหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชัยชนะเหนือบราซิลในรอบก่อนรองชนะเลิศ แสดงให้เห็นถึงความคล่องแคล่วและความนิ่งภายใต้ความกดดัน
ฟุตบอลโลก 2018 กัปตันยอดเยี่ยม
ลูก้า โมดริช รับบทบาทกัปตันทีมชาติโครเอเชียด้วยความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและความอุตสาหะ แม้ว่าทีมของเขาจะพลาดแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศ โมดริชก็ยังคงเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลอย่างมากในสนาม
ความวิสัยทัศน์ การผ่านบอล และความขยันในการทำงานของเขาคือกุญแจสำคัญในการนำทีมโครเอเชียไปสู่ความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์นี้ และทำให้เขาได้รับรางวัลลูกบอลทองคำในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟุตบอลโลก 2018
ฟุตบอลโลก 2018 โค้ชยอดเยี่ยม
ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ โค้ชทีมชาติฝรั่งเศส ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นโค้ชยอดเยี่ยมของฟุตบอลโลก 2018
ความเฉียบแหลมทางแท็กติก การจัดการทีม และความสามารถในการพัฒนาผู้เล่นเยาวชนอย่างคีเลียน เอ็มบัปเป้ เป็นสิ่งสำคัญในการนำฝรั่งเศสไปสู่แชมป์ฟุตบอลโลกครั้งที่สองของพวกเขา
เดส์ชองส์กลายเป็นคนที่สามในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกทั้งในฐานะผู้เล่น (1998) และโค้ช
10 ผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลก 2018
นี่คือรายชื่อผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลก 2018:
- แฮร์รี เคน (อังกฤษ) – 6 ประตู
- อ็องตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส) – 4 ประตู
- โรเมลู ลูกากู (เบลเยียม) – 4 ประตู
- คีเลียน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส) – 4 ประตู
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส) – 4 ประตู
- เดนิส เชอรีเชฟ (รัสเซีย) – 4 ประตู
- เอเด็น อาซาร์ (เบลเยียม) – 3 ประตู
- เอดินสัน คาวานี (อุรุกวัย) – 3 ประตู
- ดีเอโก คอสต้า (สเปน) – 3 ประตู
- เยอร์รี มินา (โคลอมเบีย) – 3 ประตู
ฟุตบอลโลก 2018 รวมทีม
ทีมชาติ 32 ทีมที่เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ได้แก่: อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, เบลเยียม, บราซิล, โคลอมเบีย, คอสตาริกา, โครเอเชีย, เดนมาร์ก, อียิปต์, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ไอซ์แลนด์, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, โมร็อกโก, ไนจีเรีย, ปานามา, เปรู, โปแลนด์, โปรตุเกส, รัสเซีย, ซาอุดีอาระเบีย, เซเนกัล, เซอร์เบีย, เกาหลีใต้, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ตูนิเซีย, อุรุกวัย
ฟุตบอลโลก 2018 ผู้ตัดสินยอดเยี่ยม
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 มีผู้ตัดสินทั้งหมด 36 คนและผู้ช่วยผู้ตัดสิน 63 คนจาก 6 สมาพันธ์หลัก โดยมีผู้ตัดสินที่มีชื่อเสียงได้แก่:
- เนสตอร์ พิตานา (อาร์เจนตินา)
- อาลิเรซา ฟากานี (อิหร่าน)
- เบยอร์น คุยเปิร์ส (เนเธอร์แลนด์)
- คูเนยิต ชาคีร์ (ตุรกี)
ทัวร์นาเมนต์นี้ยังมีการนำระบบผู้ช่วยผู้ตัดสินผ่านวิดีโอ (VAR) มาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินในการแข่งขัน
ฟุตบอลโลก 2018 รวมสนาม
ฟุตบอลโลก 2018 จัดขึ้นใน 12 สนามใน 11 เมืองทั่วรัสเซีย สนามหลักได้แก่:
- สนามลุจนีกีในมอสโก – ใช้เป็นสนามเปิดและสนามสำหรับรอบชิงชนะเลิศ
- สนามเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – ใช้ในรอบรองชนะเลิศและการแข่งขันอันดับสาม
- สนามฟิชต์ โอลิมปิกในโซชิ
- สนามคาซาน อารีนา
- สนามซามารา อารีนา
- สนามสปาร์ตักในมอสโก
เมืองอื่นๆ เช่น รอสตอฟ-ออน-ดอน, คาลินินกราด, นิจนีนอฟโกรอด, วอลโกกราด, ซารานสก์ และเยคาเตรินบุร์กก็มีการจัดการแข่งขันเช่นกัน
ฟุตบอลโลก 2018 ความขัดแย้งในฟุตบอลโลก 2018
ฟุตบอลโลก 2018 มีความขัดแย้งหลายประการ โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการตัดสินของผู้ตัดสิน การใช้ระบบ VAR และความตึงเครียดทางการเมือง
แม้ว่า VAR จะเป็นนวัตกรรมใหม่ แต่ก็ถูกวิจารณ์อย่างมากเกี่ยวกับความไม่สม่ำเสมอในการตัดสิน นอกจากนี้ หลายทีมยังไม่พอใจกับการตัดสินเกี่ยวกับจุดโทษ การล้ำหน้า และการตีความแฮนด์บอล
มีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความชอบธรรมในการเลือกให้รัสเซียเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองกับหลายประเทศ
ประวัติโดยย่อของฟุตบอลโลก 2018
ฟุตบอลโลก 2018 จะถูกจดจำในฐานะทัวร์นาเมนต์ที่เต็มไปด้วยความไม่คาดฝันและการเกิดขึ้นของดาวรุ่งดวงใหม่
เยอรมนี แชมป์เก่า ถูกเขี่ยตกรอบตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ในขณะที่ทีมอย่างโครเอเชียและเบลเยียมสร้างผลงานที่เกินคาด
ชัยชนะของฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของนักเตะเยาวชนและการทำงานเป็นทีม โดยคีเลียน เอ็มบัปเป้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก
การแข่งขันนี้ยังเป็นที่จดจำจากการใช้ VAR เป็นครั้งแรก และมีผลกระทบอย่างมากต่อเกมฟุตบอล
ผลกระทบจากฟุตบอลโลก 2018
ฟุตบอลโลก 2018 ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อวงการฟุตบอลโลกและภาพลักษณ์ของรัสเซีย ด้านเศรษฐกิจ ฟุตบอลโลกช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของรัสเซียและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ในสนาม ฟุตบอลโลกแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในวงการฟุตบอลไปสู่ผู้เล่นรุ่นใหม่ที่มีพลังและมีความคล่องตัวมากขึ้น เช่น เอ็มบัปเป้
ทัวร์นาเมนต์นี้ยังเป็นเวทีในการแสดงให้เห็นถึงการขึ้นมาของทีมอย่างโครเอเชีย ขณะที่ทีมใหญ่ๆ เช่น เยอรมนีและอาร์เจนตินาเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ
ในระดับโลก การแข่งขันฟุตบอลโลกช่วยฟื้นฟูความสนใจในฟุตบอลโลกในฐานะเทศกาลฟุตบอล พร้อมกับมีผู้ชมทางโทรทัศน์และการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลที่ทำลายสถิติ
ความสำเร็จของทัวร์นาเมนต์นี้ยังช่วยฟื้นฟูความไว้วางใจในฟีฟ่า หลังจากที่องค์กรนี้เผชิญกับเรื่องอื้อฉาวด้านการทุจริตในอดีต
