5 นักเตะค่าตัวแพงที่สุดใน EURO 2016: ดาวเด่นที่สร้างความสำเร็จ
การแข่งขัน UEFA European Football Championship 2016 ได้นำพานักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดในวงการฟุตบอลโลกมารวมกัน ความคุ้มค่าของพวกเขาไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสามารถอันยอดเยี่ยม แต่ยังรวมถึงอิทธิพลที่มีต่อเกมและความสามารถในการแสดงฝีมือภายใต้ความกดดันอีกด้วย
นักเตะค่าตัวแพงที่สุดใน UEFA European Football Championship 2016: ดาวดังที่ค่าตัวมหาศาล
การแข่งขัน UEFA European Football Championship 2016 หรือ EURO 2016 ไม่เพียงแต่เป็นการรวมตัวของนักเตะระดับท็อปในวงการฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นการรวมตัวของนักเตะที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกด้วย
นักเตะเหล่านี้ที่มีค่าตัวในการย้ายทีมมหาศาล ได้พกพามูลค่าทางการตลาดและความกดดันอันยิ่งใหญ่มาสู่เวทีการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่
ในบทความนี้ เราจะพาไปดูนักเตะ 5 คนที่มีค่าตัวแพงที่สุดใน EURO 2016 พร้อมกับสำรวจว่าพวกเขามีอิทธิพลต่อทัวร์นาเมนต์อย่างไร และค่าตัวของพวกเขาสะท้อนถึงสถานะในวงการฟุตบอลอย่างไรบ้าง
1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)
- ค่าตัวการย้ายทีม: 3,580 ล้านบาท (€94 ล้าน จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเรอัล มาดริดในปี 2009)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่ใหญ่ที่สุดใน EURO 2016 ทั้งในแง่ของมูลค่าทางการตลาดและอิทธิพลในสนาม ด้วยค่าตัวการย้ายทีมไปเรอัล มาดริดที่สูงถึง 3,580 ล้านบาทในปี 2009 โรนัลโด้ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลเมื่อถึงการแข่งขัน EURO 2016
มูลค่าทางการตลาดของเขาไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสามารถในการทำประตู แต่ยังรวมถึงสมรรถภาพทางกาย ความเป็นผู้นำ และการมีเสน่ห์ในระดับโลกด้วย
ใน EURO 2016 โรนัลโด้มีบทบาทสำคัญในการนำโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโรครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยการทำ 3 ประตูและการแสดงฝีมือในช่วงเวลาสำคัญ รวมถึงการนำทีมในรอบชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศสแม้จะบาดเจ็บ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้
2. แกเร็ธ เบล (เวลส์)
- ค่าตัวการย้ายทีม: 3,810 ล้านบาท (€100 ล้าน จากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปเรอัล มาดริดในปี 2013)
แกเร็ธ เบล ซึ่งย้ายไปเรอัล มาดริดด้วยค่าตัวสูงถึง 3,810 ล้านบาทในปี 2013 เป็นอีกหนึ่งนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ใน EURO 2016 ในฐานะที่เป็นตัวแทนของทีมชาติเวลส์ เบลได้แบกรับความหวังของชาติไว้บนบ่าของเขา และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
เบลมีบทบาทสำคัญในการนำเวลส์เข้าสู่รอบรองชนะเลิศของ EURO 2016 โดยทำประตูได้ถึง 3 ประตูในรอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงการยิงฟรีคิกสุดสวยกับสโลวาเกีย และยังช่วยเพื่อนร่วมทีมในรอบน็อคเอาต์
ความสามารถของเบลในการทำผลงานในช่วงเวลาสำคัญ ประกอบกับความเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม ทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในนักเตะค่าตัวแพงที่สุดใน EURO 2016
3. ปอล ป็อกบา (ฝรั่งเศส)
- ค่าตัวการย้ายทีม: 3,990 ล้านบาท (€105 ล้าน จากยูเวนตุส ไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2016 หลังจาก EURO 2016)
ปอล ป็อกบา เข้าร่วม EURO 2016 ในฐานะหนึ่งในกองกลางที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในโลก แม้ว่าการย้ายทีมจากยูเวนตุสไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยค่าตัว 3,990 ล้านบาทจะเกิดขึ้นหลังทัวร์นาเมนต์ แต่เขาก็มีมูลค่าที่สูงลิ่วอยู่แล้วเพราะเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอล
ใน EURO 2016 ป็อกบาเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยฝรั่งเศสเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เขามีบทบาทสำคัญในแดนกลางของฝรั่งเศส โดยช่วยทั้งในเกมรับและเกมรุก
แม้ว่าฝรั่งเศสจะแพ้ในรอบชิงชนะเลิศกับโปรตุเกส แต่ผลงานของป็อกบาตลอดทัวร์นาเมนต์แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ในระหว่างทางที่จะกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลในขณะนั้น
4. เอเด็น อาซาร์ (เบลเยียม)
- ค่าตัวการย้ายทีม: 1,216 ล้านบาท (€32 ล้าน จากลีลล์ ไปเชลซีในปี 2012 และค่าตัวในเวลาต่อมาสูงกว่านั้นมาก)
เอเด็น อาซาร์ ซึ่งย้ายไปเชลซีด้วยค่าตัว 1,216 ล้านบาทในปี 2012 เป็นหนึ่งในดาวเด่นของเบลเยียมใน EURO 2016 แม้ว่าค่าตัวการย้ายทีมของเขาจะต่ำกว่านักเตะชั้นนำคนอื่น ๆ แต่อาซาร์ก็ได้เพิ่มมูลค่าทางการตลาดของเขาอย่างมากในช่วงที่อยู่กับเชลซี ซึ่งเขาได้สร้างชื่อเสียงให้เป็นหนึ่งในกองกลางตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก
ใน EURO 2016 อาซาร์เป็นกัปตันทีมและเป็นพลังสร้างสรรค์ของทีมเบลเยียมที่มีความสามารถสูง เขาทำได้ 1 ประตูและแอสซิสต์ 4 ครั้ง มีบทบาทสำคัญในการนำเบลเยียมเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
ความสามารถในการเลี้ยงบอล การมองเห็นเกม และความสงบในการควบคุมบอลของอาซาร์ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าตื่นเต้นที่สุดในทัวร์นาเมนต์ และผลงานของเขาก็ยืนยันสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในนักเตะค่าตัวแพงที่สุดใน EURO 2016
5. เควิน เดอ บรอยน์ (เบลเยียม)
- ค่าตัวการย้ายทีม: 2,850 ล้านบาท (€75 ล้าน จากโวล์ฟสบวร์ก ไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2015)
เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วยค่าตัว 2,850 ล้านบาทในปี 2015 เป็นผู้เล่นคนสำคัญอีกคนของเบลเยียมใน EURO 2016 ค่าตัวการย้ายทีมของเขาสะท้อนถึงสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก ด้วยความแม่นยำในการส่งบอล การมองเห็นเกม และความสามารถในการทำประตูจากระยะไกล
ใน EURO 2016 เดอ บรอยน์เป็นตัวขับเคลื่อนสร้างสรรค์เกมในแดนกลางของเบลเยียม เขามีบทบาทสำคัญในการเล่นเกมรุกของทีม โดยทำ 2 แอสซิสต์และสร้างโอกาสทำประตูให้เพื่อนร่วมทีมหลายครั้ง
แม้ว่าเบลเยียมจะตกรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ผลงานของเดอ บรอยน์ก็แสดงให้เห็นว่าเหตุใดเขาถึงเป็นหนึ่งในนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยเขาได้แสดงความสามารถในการส่งผลต่อเกมในระดับสูงสุด
นักเตะค่าตัวแพงที่สุดใน EURO 2016
เมื่อมองย้อนกลับไปที่ EURO 2016 นักเตะเหล่านี้ไม่ได้โดดเด่นเพียงเพราะค่าตัวของพวกเขา แต่เพราะอิทธิพลที่พวกเขามีต่อทีมและทัวร์นาเมนต์โดยรวม ไม่ว่าจะเป็นโรนัลโด้ที่นำโปรตุเกสคว้าชัยชนะ เบลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเวลส์จนเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ หรือป็อกบา, อาซาร์ และเดอ บรอยน์ที่แสดงฝีมือระดับโลก นักเตะเหล่านี้เป็นตัวอย่างของการเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในวงการฟุตบอล