โค้ชที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพสองสมัย
ในวงการฟุตบอลระดับโลก มีโค้ชหลายท่านที่สามารถพาทีมของตนคว้าชัยในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปได้สำเร็จ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถนำทีมคว้าชัยในศึกถ้วยยุโรปถึงสองครั้งได้? ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับโค้ชผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ที่ได้ฝากชื่อไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอล ด้วยความสำเร็จอันโดดเด่นและเป็นที่จดจำของแฟนบอลทั่วโลก
เริ่มต้นที่ โชเซ่ บียาร์ลองกา ชาวสเปน ซึ่งสามารถพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพได้ในปี 1956 และ 1957 บียาร์ลองกาถือเป็นหนึ่งในโค้ชยุคบุกเบิกที่วางรากฐานความสำเร็จให้กับราชันชุดขาวในการครองความยิ่งใหญ่ในยุโรป
ต่อมา หลุยส์ คาร์นีเกลีย โค้ชจากอาร์เจนตินา ก็นำ เรอัล มาดริด คว้าชัยต่อเนื่องในปี 1958 และ 1959 การที่มาดริดครองแชมป์ถึงสี่ครั้งติดต่อกันนั้นสะท้อนถึงความสามารถในการรักษาความยอดเยี่ยมของทีมไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
เบลา กัตต์มันน์ จากฮังการี ถือเป็นตำนานที่พา เบนฟิกา คว้าแชมป์ในปี 1961 และ 1962 กัตต์มันน์มีชื่อเสียงในด้านการเป็นโค้ชที่มีวิธีการบริหารทีมที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทำให้เบนฟิกาก้าวขึ้นมาสู่แนวหน้าของยุโรป
เอลเลนิโอ เอร์เรรา จากอาร์เจนตินา ก็เป็นอีกหนึ่งชื่อที่โด่งดังในยุคนั้น เอร์เรราพา อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ในปี 1964 และ 1965 เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างสรรค์แผนการเล่น Catenaccio ซึ่งเป็นแนวรับที่เข้มแข็งและมีระเบียบอย่างยิ่ง ทำให้ทีมของเขากลายเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขาม
มิเกล มูนญอซ โค้ชจากสเปน พา เรอัล มาดริด ครองแชมป์ในปี 1960 และ 1966 มูนญอซเป็นผู้ที่นำสไตล์การเล่นที่ยืดหยุ่นและเน้นการครองบอลมาสู่ทีม ทำให้มาดริดประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
เนเรโอ ร็อกโก้ จากอิตาลี เป็นอีกหนึ่งโค้ชที่ทำให้ชื่อของ เอซี มิลาน ก้องไกลในวงการฟุตบอลยุโรป ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ในปี 1963 และ 1969 ร็อกโก้เป็นที่รู้จักในฐานะโค้ชที่ให้ความสำคัญกับการเล่นเกมรับอย่างมาก ทำให้ทีมของเขามีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สเตฟาน โควัคส์ จากโรมาเนีย พา อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ในปี 1972 และ 1973 โควัคส์เป็นผู้ที่พัฒนาระบบ Total Football ของอาแจ็กซ์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้อาแจ็กซ์กลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้อย่างสวยงามและมีประสิทธิภาพ
เดตต์มาร์ คราเมอร์ โค้ชชาวเยอรมัน ก็ไม่แพ้ใคร ด้วยการพา บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ในปี 1975 และ 1976 คราเมอร์ถือเป็นผู้ที่นำความคิดสร้างสรรค์และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนมาใช้ในการฝึกซ้อมและการวางแผนเกม ทำให้ทีมของเขามีความมั่นคงและประสบความสำเร็จ
ไบรอัน คลัฟ จากอังกฤษ พา น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ คว้าแชมป์ในปี 1979 และ 1980 คลัฟถือเป็นหนึ่งในโค้ชที่มีความสามารถในการพาทีมที่ไม่ใช่ทีมใหญ่คว้าแชมป์ได้สำเร็จ เขามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เล่นในทีมได้อย่างดี
เอิร์นสต์ แฮปเปล โค้ชชาวออสเตรีย ก็นำทีม เฟเยนูร์ด คว้าแชมป์ในปี 1970 และ ฮัมบูร์ก ในปี 1983 แฮปเปลเป็นผู้ที่เข้าใจถึงความต้องการของทีมและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดี ทำให้เขาประสบความสำเร็จทั้งในลีกดัตช์และเยอรมัน
อาร์ริโก้ ซาคคี่ จากอิตาลี เป็นผู้ที่พา เอซี มิลาน คว้าแชมป์ในปี 1989 และ 1990 ซาคคี่ถือเป็นโค้ชที่เปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลด้วยการนำระบบการเล่นที่เน้นการเพรสซิ่งสูงและการครองบอลมาใช้ ทำให้มิลานเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้อย่างดุดันและมีประสิทธิภาพ
ออตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ โค้ชชาวเยอรมัน พา ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ในปี 1997 และ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2001 ฮิตซ์เฟลด์เป็นโค้ชที่สามารถสร้างทีมให้มีความแข็งแกร่งทั้งในเกมรุกและเกมรับ ทำให้ทีมของเขาประสบความสำเร็จทั้งในลีกเยอรมันและยุโรป
บิเซนเต้ เดล บอสเก้ จากสเปน เป็นโค้ชที่พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ในปี 2000 และ 2002 เดล บอสเก้เป็นผู้ที่เน้นการสร้างทีมที่มีความสมดุลระหว่างการโจมตีและการป้องกัน ทำให้มาดริดเป็นทีมที่ครบเครื่องและยากต่อการเอาชนะ
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โค้ชชาวสกอตแลนด์ ถือเป็นตำนานในวงการฟุตบอล ด้วยการพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ในปี 1999 และ 2008 เฟอร์กูสันเป็นโค้ชที่มีความสามารถในการจัดการทีมและสามารถนำทีมประสบความสำเร็จได้อย่างยาวนาน
โชเซ่ มูรินโญ่ จากโปรตุเกส พา ปอร์โต คว้าแชมป์ในปี 2004 และ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2010 มูรินโญ่ถือเป็นโค้ชที่มีวิธีการเล่นที่เน้นการควบคุมเกมและการเล่นที่รัดกุม ทำให้ทีมของเขาประสบความสำเร็จในเวทียุโรป
สุดท้ายนี้ ยุปป์ ไฮน์เกส โค้ชชาวเยอรมัน พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ในปี 1998 และ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2013 ไฮน์เกสเป็นผู้ที่มีความสามารถในการนำทีมให้เล่นฟุตบอลอย่างเป็นระบบและมีความสมดุล ทำให้ทีมของเขาประสบความสำเร็จในระดับสูง
ทั้งหมดนี้คือรายชื่อโค้ชผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพได้ถึงสองครั้ง แต่ละคนมีสไตล์และวิธีการเล่นที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือความสามารถในการนำทีมไปสู่ความสำเร็จสูงสุดในเวทียุโรป เรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้เป็นที่จดจำและยกย่องในวงการฟุตบอลอย่างแท้จริง
ชื่อโค้ช | ประเทศ | ทีม | ปีที่คว้าแชมป์ |
---|---|---|---|
โชเซ่ บียาร์ลองกา | สเปน | เรอัล มาดริด | 1956, 1957 |
หลุยส์ คาร์นีเกลีย | อาร์เจนตินา | เรอัล มาดริด | 1958, 1959 |
เบลา กัตต์มันน์ | ฮังการี | เบนฟิกา | 1961, 1962 |
เอลเลนิโอ เอร์เรรา | อาร์เจนตินา | อินเตอร์ มิลาน | 1964, 1965 |
มิเกล มูนญอซ | สเปน | เรอัล มาดริด | 1960, 1966 |
เนเรโอ ร็อกโก้ | อิตาลี | เอซี มิลาน | 1963, 1969 |
สเตฟาน โควัคส์ | โรมาเนีย | อาแจ็กซ์ | 1972, 1973 |
เดตต์มาร์ คราเมอร์ | เยอรมนี | บาเยิร์น มิวนิค | 1975, 1976 |
ไบรอัน คลัฟ | อังกฤษ | น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ | 1979, 1980 |
เอิร์นสต์ แฮปเปล | ออสเตรีย | เฟเยนูร์ด, ฮัมบูร์ก | 1970, 1983 |
อาร์ริโก้ ซาคคี่ | อิตาลี | เอซี มิลาน | 1989, 1990 |
ออตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ | เยอรมนี | ดอร์ทมุนด์, บาเยิร์น มิวนิค | 1997, 2001 |
บิเซนเต้ เดล บอสเก้ | สเปน | เรอัล มาดริด | 2000, 2002 |
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน | สกอตแลนด์ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 1999, 2008 |
โชเซ่ มูรินโญ่ | โปรตุเกส | ปอร์โต, อินเตอร์ มิลาน | 2004, 2010 |
ยุปป์ ไฮน์เกส | เยอรมนี | เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค | 1998, 2013 |