สถิติที่ยังคงยืนยงในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: แมตช์ที่มีประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์
12 – โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พบ เลเกีย วอร์ซอว์
ใครจะเชื่อว่าการแข่งขันฟุตบอลในระดับสูงสุดของยุโรปจะจบลงด้วยการทำประตูถึง 12 ลูกในแมตช์เดียว? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในค่ำคืนฝนพรำของปี 2016 ที่สนามซิกนัล อิดูนา ปาร์ค ซึ่งเต็มไปด้วยแฟนบอลของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับแมตช์ฟุตบอลที่ตื่นเต้นเร้าใจเช่นนี้
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในยุคของโธมัส ทูเคิล กำลังเผชิญกับปัญหาฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงวา ทีมมีปัญหาทั้งในเรื่องของการป้องกันและการบุก แต่ในคืนนั้น ทูเคิลตัดสินใจเรียกตัวนักเตะตัวหลักกลับมาเต็มทีมเพื่อกู้สถานการณ์ โดยมีชินจิ คางาวะและมาร์โค รอยส์ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คางาวะยิงไปสองประตู ส่วนรอยส์ยิงได้ถึงสามประตู เรียกได้ว่าเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของทั้งคู่ และการยิงที่ท่วมท้นนี้ช่วยให้ทีมสามารถเอาชนะเลเกีย วอร์ซอว์ไปได้อย่างสวยงาม แม้จะมีการป้องกันที่ไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม
ในช่วงครึ่งแรกของเกม ความดุดันในการบุกของดอร์ทมุนด์เริ่มฉายแวว โดยเฉพาะเมื่อคางาวะยิงประตูในนาทีที่ 17 และ 18 สร้างความฮือฮาให้กับแฟนๆ ที่สนาม ก่อนที่รอยส์จะบุกอย่างเต็มที่ในครึ่งหลังจนทำแฮตทริกได้อย่างน่าทึ่ง อย่างไรก็ตาม เลเกีย วอร์ซอว์ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขายิงกลับไปได้ถึง 4 ประตู ซึ่งถือเป็นสกอร์ที่น่าเหลือเชื่อสำหรับทีมที่ไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าดอร์ทมุนด์ แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของฟุตบอล ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
แมตช์นี้ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่แฟนบอลจะจดจำไปอีกนาน ไม่เพียงเพราะจำนวนประตูที่ทำลายสถิติ แต่ยังเพราะการเล่นที่น่าตื่นเต้นทั้งสองฝั่งของสนาม ความรวดเร็ว ความแม่นยำ และการต่อสู้ที่ไม่มีการหยุดยั้งของทั้งสองทีมทำให้แมตช์นี้กลายเป็นตำนาน
หลายคนอาจสงสัยว่ามีโอกาสที่สกอร์บ้าคลั่งแบบ 9-4, 8-5 หรือแม้แต่ 10-3 จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ในรายการแข่งขันใหญ่ๆ อย่างยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แต่ความเป็นไปได้นั้นน้อยมาก เมื่อพิจารณาจากระดับการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกปี การป้องกันที่รัดกุม และกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นของทีมในยุโรป แต่ในปี 2016 แมตช์นี้ได้พิสูจน์แล้วว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอล เมื่อทุกอย่างลงตัวในคืนนั้น
แมตช์ระหว่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์และเลเกีย วอร์ซอว์นี้ ยังทำให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางในวงการฟุตบอลเกี่ยวกับการบุกและการป้องกัน หลายฝ่ายมองว่าเป็นตัวอย่างของความสนุกสนานในเกมรุกที่บางครั้งอาจต้องแลกกับการป้องกันที่ไม่แน่นหนา ในทางกลับกัน บางคนมองว่าแมตช์นี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของกลยุทธ์ในการป้องกันที่ไม่อาจมองข้ามได้
แม้ว่าสถิตินี้จะยังคงยืนยงอยู่ แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าฟุตบอลมีเสน่ห์ตรงที่ความไม่แน่นอน และทุกครั้งที่ลูกบอลกลิ้ง ความมหัศจรรย์ก็อาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน