10 ทีมม้ามืดแห่ง EURO 2004 ที่สร้างประวัติศาสตร์
ทีมม้ามืดของ EURO 2004 ทำให้การแข่งขันครั้งนี้น่าจดจำมากยิ่งขึ้น เมื่อหลายทีมได้แสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่ โดยท้าทายทีมฟุตบอลระดับยักษ์ใหญ่ และสร้างประวัติศาสตร์ในแบบของตนเอง ตั้งแต่ชัยชนะที่ไม่มีใครคาดคิดของกรีซ ไปจนถึงผลงานที่แข็งแกร่งของลัตเวียในรอบแบ่งกลุ่ม เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ UEFA European Football Championship 2004 เป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่น่าจดจำที่สุด
10 อันดับทีมม้ามืดของ EURO 2004
แม้ว่ากรีซจะเป็นทีมที่สร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่พวกเขาไม่ใช่ทีมเดียวที่ทำให้แฟนบอลต้องตื่นตะลึงกับผลงานใน UEFA European Football Championship 2004 มาดูกันว่า 10 ทีมม้ามืดที่สร้างความประทับใจใน EURO 2004 มีทีมใดบ้าง
1. กรีซ
ทีมม้ามืดที่โด่งดังที่สุดใน EURO 2004 ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกรีซ ที่คว้าแชมป์ไปครองด้วยความมุ่งมั่นและการเล่นตามแผนอย่างเคร่งครัด ภายใต้การคุมทีมของ อ็อตโต้ เรห์ฮาเกล กรีซสามารถโค่นทีมยักษ์ใหญ่อย่างฝรั่งเศส สาธารณรัฐเช็ก และโปรตุเกสในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ด้วยการชนะสองครั้งติดต่อกันกับทีมเจ้าภาพ ผลงานของกรีซถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
2. ลัตเวีย
ลัตเวีย ทีมม้ามืดอีกทีมใน European Championship 2004 ที่สร้างความประหลาดใจด้วยการผ่านเข้ามาแข่งขันเป็นครั้งแรก ทีมจากแถบบอลติกทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการเสมอกับเยอรมนี 0-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม ผลลัพธ์นี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เยอรมนีต้องตกรอบอย่างรวดเร็ว แม้ว่าลัตเวียจะไม่สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้ แต่พวกเขาได้รับการยกย่องในเรื่องความมุ่งมั่นและสปิริตที่ยอดเยี่ยม
3. โปรตุเกส
แม้ว่าโปรตุเกสจะเป็นเจ้าภาพและมีทีมที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งในการคว้าแชมป์ EURO Football Championship 2004 หลังจากแพ้ให้กับกรีซในนัดเปิดสนาม โปรตุเกสสามารถกลับมาเข้าชิงชนะเลิศได้อย่างน่าประทับใจ แต่ก็ต้องพ่ายให้กับกรีซอีกครั้ง เส้นทางของโปรตุเกสทำให้หลายคนประหลาดใจ โดยเฉพาะชัยชนะเหนือทีมใหญ่อย่างอังกฤษและเนเธอร์แลนด์
4. สาธารณรัฐเช็ก
สาธารณรัฐเช็กเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้อย่างกล้าหาญและเร้าใจ แม้หลายคนจะไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะไปได้ไกล พวกเขาเอาชนะเดนมาร์กในรอบก่อนรองชนะเลิศ และเป็นหนึ่งในทีมที่โดดเด่นใน EURO Championship 2004 แม้จะต้องหยุดเส้นทางที่รอบรองชนะเลิศจากการพ่ายแพ้ให้กับกรีซ
5. สวีเดน
สวีเดนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน EURO 2004 ด้วยการเป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีอิตาลี บัลแกเรีย และเดนมาร์ก หนึ่งในไฮไลต์ของทีมคือการทำประตูด้วยท่าตอกส้นอันน่าทึ่งของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ช่วยให้สวีเดนเสมอกับอิตาลี 1-1 แม้ว่าสวีเดนจะตกรอบในรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ผลงานที่พวกเขาทำได้ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่น่าจับตามอง
6. เดนมาร์ก
แม้ว่าเดนมาร์กจะไม่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ แต่พวกเขาก็ทำผลงานได้เหนือความคาดหมายใน EURO 2004 ทีมจบที่อันดับสองในกลุ่มของตนก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับสาธารณรัฐเช็กในรอบก่อนรองชนะเลิศ ผลงานของพวกเขาในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเฉพาะการเสมอกับอิตาลี แสดงให้เห็นถึงสปิริตและความสามารถในการต่อสู้กับทีมใหญ่
7. โครเอเชีย
โครเอเชียเป็นอีกทีมหนึ่งที่เข้าร่วม UEFA European Football Championship 2004 ในฐานะม้ามืด แม้พวกเขาจะไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ แต่ผลงานในการเจอกับทีมใหญ่อย่างฝรั่งเศสและอังกฤษ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถท้าทายทีมระดับสูงได้อย่างสูสี
8. เนเธอร์แลนด์
แม้ว่าเนเธอร์แลนด์จะถือเป็นทีมที่แข็งแกร่งของยุโรป แต่ในการแข่งขัน EURO 2004 พวกเขาไม่ได้รับการจับตามองมากเท่าที่ควร ด้วยการผสมผสานของนักเตะวัยหนุ่มและประสบการณ์ พวกเขาสามารถผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และเอาชนะสวีเดนได้อย่างน่าตื่นเต้นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ให้กับโปรตุเกส
9. เยอรมนี
แม้ว่าเยอรมนีจะเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ แต่ในการแข่งขัน EURO 2004 พวกเขากลับต้องเล่นในบทบาทของทีมม้ามืด เนื่องจากผลงานที่น่าผิดหวังและการตกรอบจากรอบแบ่งกลุ่ม โดยหนึ่งในผลการแข่งขันที่ทำให้หลายคนตกตะลึงคือการเสมอกับลัตเวีย ผลลัพธ์นี้เป็นจุดต่ำสุดของฟุตบอลเยอรมนีในยุคนั้น
10. อังกฤษ
แม้ว่าทีมชาติอังกฤษจะมีนักเตะฝีเท้ายอดเยี่ยมหลายคนในทีม EURO 2004 แต่ทัวร์นาเมนต์นี้เต็มไปด้วยความผิดหวัง การตกรอบในรอบก่อนรองชนะเลิศจากการพ่ายแพ้ต่อโปรตุเกสในการดวลจุดโทษ เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้แฟนบอลอังกฤษต้องเจ็บปวด แม้พวกเขาจะมีสตาร์ดังอย่าง เดวิด เบ็คแฮม และ เวย์น รูนี่ย์ แต่ความไม่สามารถที่จะทำผลงานได้ดีในเวทีใหญ่ ทำให้พวกเขาถูกมองว่าเป็นม้ามืดในเกมสุดท้ายของพวกเขา
ชัยชนะอันน่าทึ่งของทีมม้ามืดใน UEFA EURO 2004
ทีมม้ามืดของ EURO 2004 แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนและความมหัศจรรย์ของฟุตบอล ที่ไม่มีทีมใดควรถูกประเมินต่ำเกินไป การต่อสู้ของพวกเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล